คัดลอก URL แล้ว
บุกค้นโกดังส่งพัสดุไม่ตรงปก หลอกเก็บเงินปลายทาง

บุกค้นโกดังส่งพัสดุไม่ตรงปก หลอกเก็บเงินปลายทาง

ตามนโยบายรัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ พร้อมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และยังเน้นย้ำถึงการทำงานและความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ที่สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผบช.สอท. ส่งตำรวจไซเบอร์เร่งกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิด เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกรณีมิจฉาชีพตีเนียนส่งพัสดุเพื่อหลอกเก็บเงินปลายทาง

รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ตั้งแต่ 1 พ.ย.66 ที่ผ่านมา โดยได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างธนาคาร กสทช. ตำรวจ โอเปอเรเตอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถดำเนินการเชิงรุกกับกลุ่มผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก จนนำมาสู่การแถลงปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้

ล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค.66 เวลา 13.30 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว “OPERATION: UNBOX SCAM EP.2 ขยายผลแกะกล่องพัสดุลวง บุกค้นโกดังส่งพัสดุไม่ตรงปก หลอกเก็บเงินปลายทาง” บุกตรวจค้นโกดังสินค้าขนาดใหญ่ย่านบางบอน ขยายผลจากกรณีจับกุมตัวการตีเนียนส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทางโดยที่ไม่ได้สั่งซื้อ และส่งสินค้าที่ไม่ตรงปกเพื่อหลอกเก็บเงินปลายทาง

โดยสืบเนื่องจาก ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ได้รับร้องเรียนจากการประชาชนเป็นจำนวนมาก ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกเก็บเงินค่าพัสดุปลายทางโดยที่ไม่ได้สั่งซื้อ หรือ เคยสั่งซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มบนโซเชียล แต่ไม่ได้รับสินค้าตรงตามที่ได้สั่งซื้อ

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 15 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมนายอนุศาสน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ซึ่งได้ใช้แพลตฟอร์ม TikTok จำนวน 4 บัญชีในการขายสินค้า มีการส่งพัสดุในรอบ 1 เดือน ประมาณ 8,000 ชิ้น และมีพัสดุตีกลับประมาณ 47 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมียอดระงับการเก็บเงินปลายทางกว่า 8 แสนบาท จึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดี และได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ทำการสืบสวนขยายผลจากกรณีดังกล่าว จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 18 ธ.ค.66 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลแขวงบางบอน เข้าตรวจค้นโกดังสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ในซอย เอกชัย109 แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร พบนางสาวกัญญารัตน์ อายุ 24 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อ้างว่าเป็นผู้ดูแล โดยได้ให้ความร่วมมือพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในโกดังดังกล่าว จากการตรวจค้นพบของกลางสินค้านำเข้าจากประเทศจีนที่ไม่มีมาตรฐานกว่า 30 รายการ รวมทั้งสิ้นกว่า 4 พันชิ้น อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำหอม ครีมทาผิว และสินค้าอื่นๆ อีกหลายรายการ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมจะทำการขยายผลเพิ่มเติมจากหลักฐานที่ได้จากปฏิบัติการทั้ง 2 ครั้งต่อไป

ตลอดเวลาที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ได้ร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในการเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้แก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอเตือนภัยประชาชน ให้ระมัดระวังในการรับพัสดุกรณีที่มีการเรียกเก็บเงินปลายทาง หรือ (COD) ควรตรวจสอบกับญาติหรือผู้ที่อยู่อาศัยร่วมกันว่าได้มีการสั่งซื้อจริงหรือไม่ หากไม่มั่นใจควรปฏิเสธการรับพัสดุดังกล่าวไปก่อน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษา ศูนย์ AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง