สัปดาห์หน้า ดีเอสไอ เตรียมบุกค้น 3 เป้าหมาย เครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ขนาดใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับขบบวนการนำเข้าหมูเถื่อน
ขณะที่วันนี้ นายทุน และเจ้าของบริษัทชิปปิ้ง เข้าพบดีเอสไอ ชี้แจงข้อกล่าวหา พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลอีกด้าน อ้างว่า ถูกกลั่นแกล้ง ทำให้เนื้อหมูนำเข้าในธุรกิจตนเองไปเป็นส่วนหนึ่งของหมูเถื่อน
นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ยอมรับว่า เป็นทั้งนายทุน และบริษัทชิปปิ้ง ที่นำเข้าชิ้นส่วนหมู และสินค้าประเภทอื่นๆ จากหลายประเทศ เพื่อที่จะส่งไปขายประเทศที่สาม ส่วนการที่มีบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน เชื่อว่าอาจถูกกลั่นแกล้ง จากหน่วยงานรัฐ ที่มีอำนาจในการอนุญาต นำเข้าและส่งออก เพราะก่อนหน้านี้ทาง บริษัทเคยร้องเรียน ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงพฤติกรรมบางอย่างของเจ้าหน้าที่ เช่น มีการเรียกรับผลประโยชน์ ทำให้ สินค้าของบริษัทถูกระงับ ไม่ให้นำออกจากประเทศ อ้างว่าแสดงเอกสารไม่ครบถ้วน ทำให้สินค้าของบริษัท 41 ตู้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของของกลางที่ กรมศุลกากร ยึดและส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ด้านพันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน บอกว่า ผู้ถูกกล่าวหา นอกจากมา รับทราบข้อกล่าวหา ยังได้นำ นำหลักฐานมาชี้แจงเพิ่ม เช่น คำฟ้องศาลปกครอง และหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ยังต้องนำหลักฐานมาชี้แจงเพิ่มเติมด้วยอีกส่วนการดำเนินคดี หมูเถื่อนที่มีการตรวจพบ 161 ตู้ ขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้งครบแล้ว
ส่วนการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในคดีนี้ยังคงเดินหน้าขยายผลจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มปฏิบัติการสัปดาห์หน้า ที่มีการบุกตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุดที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่
“แม็คโคร” ออกแถลงการณ์แจงไม่สนับสนุนสินค้าผิดกฎหมาย
ด้านฝ่ายสื่อสารองค์กร แม็คโคร ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าไม่สนับสนุนและประณามการซื้อขายสินค้าผิดกฎหมาย พร้อมระบุว่าการรับซื้อสินค้า มีกระบวนการรัดกุม ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าเถื่อน นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการคัดเลือกและประเมินคู่ค้า รวมถึงมาตรการในการหยุดรับซื้อและยกเลิกสัญญาเมื่อพบว่าสินค้าไม่มีคุณภาพในส่วนของข่าวที่ปรากฏในสื่อว่าดีเอสไอเข้าตรวจสอบนั้น ทางบริษัทให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบ และไม่ได้จับกุมตามที่สื่อบางแห่งรายงานในช่วงท้ายของแถลงยังระบุถึงการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อน
ซึ่งทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทจึงขอชี้แจงและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทนี่เป็นอีกครั้งที่แม็คโคร ออกแถลงการณ์แก้ต่างในประเด็นหมูเถื่อน หลังก่อนหน้านี้เคยออกแถลงการณ์ชี้แจงว่าได้ยกเลิกการซื้อขายเนื้อหมูและตับหมูแช่แข็งกับบริษัทที่ถูกดีเอสไอตรวจสอบไปแล้วตั้งแต่กลางปี 2565 หลังพบสินค้าไม่มีคุณภาพ พร้อมประณามการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนทำให้เกษตรกรไทยได้รับความเสียหาย