คัดลอก URL แล้ว
แม่วัย 85 ปี ยกมือพนมไหว้ขอบคุณ กลุ่มฮามาสปล่อยตัวลูกชาย-ลูกสะใภ้

แม่วัย 85 ปี ยกมือพนมไหว้ขอบคุณ กลุ่มฮามาสปล่อยตัวลูกชาย-ลูกสะใภ้

จากกรณีกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งข่าวดีที่เกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันชาวไทยในชุดแรก รวมทั้งสิ้น 10 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 1 คน เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังอุปทูตและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางไปเยี่ยมกลุ่มคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวที่ รพ. Shamir Medical Center โดยมีรายชื่อดังนี้

1. นางสาวณัฐฐาวรี มูลกัน 2. นายสันติ บุญพร้อม 3. นายบุญถม พันธ์ฆ้อง 4. นายมงคล ผจวบบุญ 5. นายวิทูรย์ ภูมี 6. นายวิชัย กาละปัตย์ 7. นายบัญชา กองมณี 8. นายบุดดี แสงบุญ 9. นายอุทัย ทุ่นศรี และ 10. นายอุทัย แสงนวล ซึ่ง 2 แรงงานชาวไทย ที่ถูกระบุจากญาติว่าเป็นสามีภรรยากัน หลังพบรักกันที่ประเทศอิสราเอลเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา คือนายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี ชาว จ.อุดรธานี และนางสาวณัฐฐาวรี มูลกัน อายุ 35 ปี ชาว จ.ขอนแก่น

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 56 ม.1 บ้านหินโงม ต.บ้านหินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านพักตามภูมิลำเนาของนายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล พบนางเขียน พันธ์ฆ้อง อายุ 85 ปี และนางอุไร จันทชาติ อายุ 61 ปี แม่และพี่สาวนั่งอยู่บนเตียงไม้ใต้ถุนบ้าน ที่ตั้งตารอคอยฟังข่าวดีและการกลับมาของลูกชายทุกวันอย่างมีความหวัง หลังถูกกลุ่มฮามาสบุกเข้าแคมป์คนงาน และถูกจับไปเป็นตัวประกันพร้อมกับ น.ส.ณัฐฐาวรี มูลกัน อายุ 35 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ว่าที่ลูกสะใภ้ และเพื่อนร่วมงาน นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 จนถึงวันนี้รวม 50 วัน

โดยในวันนี้ นางเขียนฯ แม่ของนายบุญถมฯ มีหน้าตายิ้มแย้มสดใสอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ได้รับแจ้งข่าวดีจากสถานฑูตไทยในอิสราเอล และหลานชายที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลว่า นายบุญถมฯ และภรรยา พร้อมกับเพื่อนแรงงานชาวไทย รวม 10 คน ถูกกลุ่มฮามาสปล่อยตัวออกมาแล้ว ทำให้นางเขียนฯและนางอุไรฯ แม่และพี่สาว ดีใจจนนอนไม่หลับ และนางเขียนฯ ผู้เป็นแม่ กินข้าวได้มากกว่าทุกวัน เพราะจะได้เห็นหน้าลูกชายกลับมาบ้านแบบยังมีชีวิต หลังไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง รวมทั้งหมอดูก็บอกว่า ลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ทั้งสองคนยังปลอดภัยดี

ผู้สื่อข่าวได้นำรูปภาพนายบุญถมฯ และน.ส.ณัฐฐาวรี มูลกัน ที่ถ่ายภาพร่วมกันกับแรงงานชาวไทยที่ถูกปล่อยตัวให้นางอุไรฯ และนางเขียนฯ แม่และพี่สาวดู เมื่อนางเขียนฯได้เห็นภาพ ก็ชี้เป็นลูกชายและลูกสะใภ้ ยืนอยู่ในรูปภาพอย่างถูกต้อง และบอกว่าลูกชายซูบผอมลงเล็กน้อย พร้อมกับได้ยกมือพนมไหว้ขอบคุณรัฐบาลไทยและอิสราเอล เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมทั้งกลุ่มฮามาสที่ปล่อยตัวลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ออกมาอย่างปลอดภัย

ขณะที่นางอุไรฯ พี่สาวนายบุญถมฯ ได้แต่งขันธ์ 5 ดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ศาลปู่ตา หรือศาลหลักบ้าน เพื่อบอกกล่าวว่าน้องชายและว่าที่น้องสะใภ้ ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว และเมื่อกลับมาถึงบ้านก็จะนำพวงมาลัย 38 พวง ที่บนบานเอาไว้คนละ 19 พวง มาถวายศาลปู่ตาเพื่อแก้บน 

นางเขียนฯ แม่นายบุญถม เล่าว่า ตั้งแต่ทราบข่าวว่าลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ ถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกัน ก็ทำให้กินไม่ค่อยได้ นอนก็ไม่ค่อยหลับ ในเวลาคิดถึงลูกชาย ซึ่งนายบุญถมเป็นลูกชายคนสุดท้อง ตนรักและเป็นห่วงเขามาก หลังทราบข่าวดีเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ดีใจจนนอนไม่หลับ แต่เช้าวันนี้กินข้าวได้มากว่าทุกวันที่ผ่านมา

ส่วนนางอุไรฯ พี่สาวนายบุญถมฯ เล่าว่า ตั้งแต่น้องชายถูกจับไปเป็นตัวประกันจนถึงวันนี้รวม 50 วัน ก็ได้รับข่าวดีจากสถานทูตไทยในอิสราเอลและหลานชายโทรแจ้งมาว่า ตัวประกันที่ถูกปล่อยตัวรวม 10 คน มีชื่อน้องชายและน้องสะใภ้ และขณะนี้ทุกคนปลอดภัยดี และให้แพทย์ทางอิสราเอลตรวจสุขภาพร่างกาย ก่อนจะดำเนินการขั้นตอนในการส่งตัวกลับภูมิลำเนา หลังทราบข่าวดี ตนและแม่ รวมทั้งญาติพี่น้องต่างพากันดีใจ หลังพากันไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ อ.สร้างคอม ไว้หลายแห่ง และสิ่งที่ขอก็เป็นความจริง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง