“กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ สน.ลุมพินี หลังประชาชนแจ้งพบขอทานจีนโผล่อีก! ล่าสุดเตรียมประสาน ‘ดีเอสไอ’ ช่วยคดี เชื่อทำเป็นขบวนการ และอาจเข้าข่ายค้ามนุษย์ หลังพบขอทานจีนมีแผลใบหน้า และแขนกุดคล้ายกันทุกคน
จากกรณี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และตำรวจ สน.บางพลัด ร่วมกันไปตรวจสอบหน้าห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า พบกับหญิงวัย 40 ปี ชาวจีน สวมชุดคล้ายนักศึกษา ถูกตัดมือทั้งสองข้างและถูกน้ำกรดราดที่ใบหน้าจนเป็นแผล มานั่งขอทานที่บริเวณดังกล่าวว
โดยวันนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติม กัน จอมพลัง เดินทางเข้าพบ ผกก.สน.ลุมพินี เพื่อประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่สำรวจจุดเบาะแสที่ประชาชนแจ้งให้ข้อมูลพบขอทานชาวจีนใส่เครื่องแบบนักเรียนนักศึกษาโผล่ขอทาน ใน พื้นที่ สน.ลุมพินี และจากข้อมูล ‘กัน จอมพลัง’ เผยว่า ตอนนี้เป้าหมายในขบวนการใช้ชาวจีนขอทาน มีเบาะแสแล้ว 7 ราย จับกุมตัวแล้ว 3 ราย เหลืออีก 4 ราย และล่าสุดพื้นที่ สน.ลุมพินี มีประชาชนแจ้งพบแล้ว 2 จุด อยู่ระหว่างตามหาตัว
นอกจากนี้ตนเอง ยังได้ประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบขบวนการ โดย 3 เคสที่ผ่านมา พบว่าขอทานไม่ได้พกพาสปอร์ตติดตัว แต่หลังถูกจับกุมตัว มีล่ามภาษาจีนนำพาสปอร์ตมาให้ จากการสังเกตพบล่ามภาษาจีนนั่งรถหรูมา และมาพร้อมกับสามีชาวจีนด้วย พยายามนำเงินขอเข้าเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว
เมื่อตำรวจสอบปากคำ ขอทานจีนทั้งหมดให้การตรงกันว่าเดินทางเข้าไทยโดยสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับมา ตนเองมองว่ามีพิรุธ และเชื่อว่าทั้งหมดไม่พูดความจริง เลยสอบถามขอทานว่าเคยเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้างหรือไม่ ขอทานบอกว่าเคลียร์ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
สำหรับข้อสงสัย จากที่ตนเองสังเกตเพิ่มเติม พบร่องรอยบาดแผลของทุกคนมีลักษณะคล้ายกันหมด คือ นิ้วกุด และใบหน้ามีบาดแผลคล้ายถูกราดน้ำกรด แต่จุดสังเกตอีกอย่างคือรอบลำคอ และข้อมือของขอทานมีรอยวงแหวนคล้ายถูกจุ่มลงไปในน้ำกรดที่ใส่ภาชนะบางอย่างไว้ จึงทำให้รอยวงแหวนบริเวณดังกล่าวคล้ายกันทุกคน
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพาสปอร์ต พบว่าขอทานจีนบางคนมีการเดินทางเข้า-ออกไทย 4-5 ครั้งปล้ว แต่พฤติการณ์ทั้งหมดเดินทางมาจากมาเลเซียแทนบีนตรงจากจีน และในข้อมูลไม่ติด Black list จึงเชื่อว่าทุกครั้งที่ออกจากไทย อาจมีการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่หรือไม่
กัน จอมพลัง มั่นใจว่า กลุ่มขอทานกลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ เนื่องจากรู้จุดที่เป็นแหล่งขอทาน เวลาถูกจับก็ส่งล่ามมาเคลียร์ทันที ซึ่งเชื่อว่ามีคนคอยดูลาดเลาในพื้นที่ช่วย
เบื้องต้น กลุ่มขอทาน 3 เคสที่จับไปก่อนหน้านี้ถูกจับตามคงามผิด พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน และคาดว่าจะผลักดันกลับประเทศต้นทาง ตนเองขอความร่วมมือกับดีเอสไอเพิ่ม เพราะมองว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์ เพื่อจะได้สาวไปถึงตัวการใหญ่ของขบวนการนี้ เพราะยิ่งไทยเปิดฟรีวีซ่าให้จีย ในอนาคตขบวนการนี้ อาจจะหลั่งไหลเข้ามาหากินแบบผิดกฎหมายเพิ่มเติมก็ได้