นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำถึงโครงการดิจิดิทัล-วอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลมีความจำเป็นต้องออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อมาขับเคลื่อนเร่งด่วน เพราะสภาพเศรษฐกิจของไทยอยู่ในสภาวะวิกฤต แม้ไทยจะไม่ได้ประสบปัญหาจีดีพีติดลบ แต่จำเป็นต้องแข่งขันกับต่างประเทศ เพราะหลายประเทศ
ต่างขยับ-ขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่การขยายตัวเศรษฐกิจของไทยต่ำกว่าร้อยละ 2
ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน นายกฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกฯ เป็นประธานกรรมการ ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะแก้ไขสถานการณ์หนี้ของประชาชนรายย่อย เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในระยะยาว
อย่างเป็นระบบ โดยนายกฯยืนยันว่า จะประกาศ มาตรการแก้หนี้ทั้งระบบในปลายเดือนนี้
มท.เตรียมแถลงแก้หนี้นอกระบบ 28 พ.ย.นี้
สำหรับแนวทางที่นายกฯ จะให้กระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องหนี้นอกระบบนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ จะแถลงมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยวางแนวทางว่านายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ เจ้าหนี้ ลูกหนี้ และผู้ที่ดูแลเรื่องกฎหมาย ไปเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการคิดอัตราดอกเบี้ยต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
กยศ.เปิดปรับโครงสร้างหนี้ เริ่ม ม.ค.67
ส่วนประเด็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. / โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างดำเนินการคำนวณยอดหนี้ของลูกหนี้ใหม่ โดย กยศ. ได้ขอให้กรมบังคับคดีชะลอการบังคับคดี และชะลอการยึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาด เพื่อรอผลการคำนวณยอดหนี้ใหม่ก่อน ซึ่งในบางกรณีเมื่อคำนวณยอดหนี้ใหม่แล้ว ลูกหนี้อาจไม่มีความจำเป็นต้องนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดเลย เพราะหนี้ที่คำนวณใหม่ลดลงมาก
ขณะที่ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ.ยืนยันว่า ลูกหนี้ กยศ.ทุกรายจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายใหม่ เช่น การลดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 จากเดิมร้อยละ 18 นอกจากนี้ กยศ.จะเปิดให้ปรับโครงสร้างหนี้ โดยผู้ค้ำประกันเดิมทุกคนที่มีภาระอยู่ จะหลุดพ้นจากภาระค้ำประกัน โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป)
