“โมโน เน็กซ์” ลุยขยายคอนเทนต์ทุกแพลตฟอร์ม ปี 67 ทุ่มงบลงทุน 1,200 ล้าน ดัน MONOMAX ขยายฐานสมาชิกโตทะลุ 2 ล้านคน ขนซีรีย์จีนพากย์ไทย 100% ครองใจแฟนคลับ พร้อมส่ง MONO ORIGINAL ตีตลาด รุกปรับผังช่อง MONO29 เสิร์ฟหนังแอคชั่นฮีโร่สุดเดือด เพิ่มสัดส่วนรายการวาไรตี้ – ข่าวคุณภาพตอบโจทย์ผู้ชมทุกกลุ่ม
ท่ามกลางการแข่งขันอันแสนดุเดือด ในสมรภูมิผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดูหนังและซีรีส์ออนไลน์ แบบ Subscription Video on Demand หรือ SVOD ในบ้านเรา หนึ่งนั้นคือ MONOMAX ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งสัญชาติไทย ซึ่งเป็นบริการในเครือ MONO NEXT (โมโน เน็กซ์)
แม้ MONOMAX จะเป็นรายเดียวในตลาด ที่มีเจ้าของเป็นคนไทย แต่ในการเปิดเผยวิสัยทัศน์ และการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 – 2567 โดย คุณปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า “เราไม่อ่อนแรงแน่นอน” โดยเฉพาะกลยุทธ์การเพิ่มสัดส่วนผลิต MONO ORIGINAL เพื่อขยายคอนเทนต์และผู้ติดตาม
คุณปฐมพงศ์ กล่าวว่า MONOMAX ได้ระดมทีมนักเขียนบท ผู้กำกับ และนักแสดงชื่อดังของไทย มาเล่นหลากหลายบทบาทและหลากหลายแนว ซึ่งถือเป็นการส่งเสริม Soft Power ของไทยด้วย จึงเชื่อว่าทุนคนเมื่อได้ดูจะชื่นชอบอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมาเมื่อมีการลงคอนเทนต์ MONO ORIGINAL ยอดขายในเดือนนั้น ๆ จะเพิ่มขึ้น 15-25% ทันที
ขณะเดียวกัน MONOMAX จะยังคงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ การเติบโตอย่างก้าวกระโดด 300% จากช่วงปี 2564 โดยในปี 2566 ช่วงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ได้สร้างสถิติยอด New Highest จากซีรีส์จีน The Legend of Anle. และในปี 2567 คาดการณ์อัตราเติบโตโดยรวมจะสูงขึ้นอีก 300-400%
ปัจจุบัน MONOMAX มีสมาชิกผู้ติดตาม 8.6 แสนราย เป้าหมายการเติบโตภายในปี 2566 ตั้งเป้าขยายฐานสมาชิกให้ได้ 1 ล้านราย และในปี 2567 ขยายเพิ่มมากกว่า 2 ล้านราย สู่เป้าหมาย 2.85 ล้านราย
สำหรับการเติบโตในด้านของผู้ชม ในกลุ่มที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ตั้งเป้าอยากให้ใช้ระยะเวลาการดูที่นานมากขึ้น มากกว่าสถิติสูงสุด 8 ตอนต่อคืน โดยปัจจุบัน MONOMAX มีซีรีส์อยู่ทั้งหมดกว่า 3,000 เรื่อง ส่วนคนทั่วไปได้ตั้งเป้าหมายสร้างการรับรู้ ให้ทุกคนได้รู้จัก MONOMAX มากขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสอย่างมากในการขยายฐานสมาชิก
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันครัวเรือนไทย สมัครบริการ SVOD ครอบคลุม 36-40% ของผู้ใช้ทุกครัวเรือน แต่ละครัวเรือนมีโอกาสใช้บริการ เฉลี่ยอยู่ที่ 2.4 – 4.5 แอปพลิเคชัน ดังนั้น โอกาสเติบโตไปยังครัวเรือนที่ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยใช้บริการ SVOD มาก่อน ยังมีอีกมาก
“จุดเด่นของ MONOMAX คือการให้บริการซีรีส์จีน พากย์ไทย 100% ส่วนนี้คิดเป็น 12-20% ของค่าใช้จ่ายต่อเรื่อง แต่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งวัยทำงานและผู้ใหญ่ ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดอย่างมาก เชื่อว่าจุดเด่นนี้จะช่วยพยุงให้เราเติบโตอย่างสม่ำเสมอ” คุณปฐมพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในปีหน้า MONOMAX ยังมีกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการเพิ่มทางเลือกให้ได้ลองสมัครแบบรายตอน หรือแพคเกจ Fast track ในราคาตอนละ 9 บาท ให้ผู้ที่ยังไม่มั่นใจได้เข้ามาลองดูเนื้อหาก่อน จากนั้นหากชื่นชอบก็สามารถ ขยับไปสมัครแพคเกจที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งมีแพคเกจให้เลือกหลากหลายราคา หลากหลายรูปแบบทั้งแบบรายเดือน และรายปี
คุณปฐมพงศ์ กล่าวถึงการควบรวมกันของ AIS และ 3BB เชื่อว่าจะยิ่งเป็นโอกาสที่ดี ในการผลักดันการเติบโตให้กับ MONOMAX จากการทำแคมเปญและทำแพคเกจร่วมกัน ซึ่งจะสามารถตอบสนองผู้บริโภค และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานมากขึ้น โดยหลังจากนี้แพคเกจต่าง ๆ จะเริ่มทยอย ออกสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,387 ล้านบาท รายได้หลักมาจาก
1) ทีวีช่อง Mono29 จำนวน 795 ล้านบาท
2) MONOMAX จำนวน 400 ล้านบาท
3) 3BBTV จำนวน 123 ล้านบาท
ส่วนแผนการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2567 นั้น บริษัทจะทุ่มงบประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2566 สำหรับลงทุนใน 3 ส่วนหลักเท่า ๆ กัน คือ
1) สำหรับทีวีช่อง Mono29
2) สำหรับ SVOD
3) สำหรับผลิต Own production
คุณปฐมพงศ์ ยังได้กล่าวถึงการปรับผังช่อง Mono29 เพื่อเสริมจุดแข็งในการแข่งขัน โดยนอกจากการซื้อลิขสิทธิ์หนังใหม่ แนวฮีโร่และแอคชั่นต่อสู้ ออกฉายเดือนละ 5-8 เรื่อง ยังมีการนำซีรีส์จีนยอดนิยมที่ฉายใน MONOMAX มาฉายบนหน้าจอทีวีด้วย ซึ่งช่วยส่งเสริมเรตติ้งให้กันได้เป็นอย่างดี
ในส่วนคอนเทนต์คุณภาพนั้น ช่วงที่ผ่านมาและปีหน้าจะมุ่งเน้น เสริมเนื้อหารายการวาไรตี้ข่าวและบันเทิง ควบคู่กับการพัฒนารายการข่าวให้แข็งแรงขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการผู้ชมทุกกลุ่มได้อย่างครบถ้วน