รัฐบาลเดลีของอินเดียมีคำสั่งห้ามจัดการแข่งขันและกิจกรรมกีฬาระดับเขต เนื่องจากดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) พุ่งสูงเกินระดับอันตราย
ระบบคุณภาพอากาศและการพยากรณ์และวิจัยสภาพอากาศ (SAFAR) ของอินเดีย ซึ่งเป็นสถาบันที่เฝ้าติดตามค่ามลพิษทางอากาศ รายงานว่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ของเดลีอยู่ที่ 504 เมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.) ซึ่งบ่งชี้ว่ามลพิษทางอากาศสูงเกินระดับ “อันตราย” ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนมลภาวะทางอากาศระดับสูงสุด โดยฝุ่นละอองที่พบส่วนมากเป็น PM 2.5 และ PM 10
ระบบคุณภาพอากาศฯ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันมลพิษ เลี่ยงการเผาไม้ จุดเทียนหรือธูป รวมถึงควรทำความสะอาดห้องเพื่อลดฝุ่น
เมื่อวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) รัฐบาลเดลีได้บังคับใช้แผนควบคุมมลพิษระยะที่ 3 โดยมีการนำปืนต้านฝุ่น (anti-smog gun) ซึ่งจะพ่นละอองน้ำเข้าไปในอากาศ และเปิดตัวโครงการรณรงค์ที่มีชื่อว่า “เจอไฟแดง ให้ดับรถ” (Red light on, Gaadi (vehicle) off) เพื่อลดมลภาวะในอากาศ ซึ่งแผนปฏิบัติการตอบสนองตามระดับ (Graded Response Action Plan – GRAP) ระยะที่ 3 ของอินเดีย กำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยุติงานก่อสร้างที่ไม่จำเป็น รวมถึงการบดหิน และการขุดเหมืองในเขตการปกครองนครหลวงเดลี (Delhi-National Capital Region)
เดลีติดอันดับหนึ่งในบรรดาเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก โดยกิจกรรมทางอุตสาหกรรมและการสัญจรของยานยนต์มีส่วนสำคัญในการก่อมลพิษทางอากาศในเมือง ตลอดจนการก่อสร้างที่หนักหน่วง ทำให้หลายปีที่ผ่านมา ช่วงก่อนถึงฤดูหนาว คุณภาพอากาศในเดลีจะมีมลภาวะสูงในระดับเป็นอันตราย โดยเจ้าหน้าที่ในเดลีกล่าวว่าสาเหตุที่มลพิษเพิ่มขึ้นนั้นมาจากการเผาตอซังพืชผลเกษตรในรัฐปัญจาบและรัฐหรยาณาที่อยู่ใกล้เคียง
ที่มา – ซินหัว