จากสถานการณ์ น้ำตาลที่มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจ เดิมเคยซื้ออยู่ในราคา 22-24 บาท ตอนนี้ราคาน้ำตาลในท้องตลาด ขยับตัวพุงสูงถึงกิโลกรัมละ 28 บาท ทำให้พ่อค้าแม่ค้าขนมหวาน ได้รับผลกระทบไปตามๆกัน เพราะในแต่ละวันต้องใช้น้ำตาลทรายเป็นส่วนประกอบวันละไม่ต่ำกว่า 10 กิโลกรัม ถึงแม้ว่าน้ำตาลทรายราคาขึ้นสูง พ่อค้าแม่ค้าขนมหวานก็ต้องจำยอมแบกรับราคาต้นทุนที่สูงขึ้นไม่กล้าปรับราคา ยังคงขายขนมหวานในราคา ถุงละ 10 บาทอยู่เหมือนเดิม เพราะเกรงว่าถ้าขนมหวานของตนขึ้นราคาตาม ลูกค้าก็จะซื้อขนมของตนเองลดลง อีกทั้งเป็นการเพิ่มภาระให้ลูกค้า ตอนนี้พออยู่ได้ก็จะยังขายของในราคาเดิมไปก่อน

ด้านนายสมชาย พุ่มน่วม ร้านขนมหวาน ขายขนมหวานอยู่ที่ตลาดเทศบาล 2 ขายขนมอยูที่ ถุงละ10 บาทเท่าเดิมเดิมน้ำตาลทรายราคากิโลกรัมละ 22 บาท ก็ขาย 10 บาท ตอนนี้น้ำตาลทรายขึ้นราคากิโลกรัมละ 28 บาทก็ยังขาย 10 บาทเท่าเดิม เพราะผู้บริโภคมีกำลังซื้ออยู่เท่านี้ ถ้าขึ้นราคาก็จะตกหนักที่ผู้บริโภค วอนรัฐบาลรักษาคำพูดก่อนการเลือกตั้งว่าจะลดราคาสินค้าลงขอให้ทำตามคำที่พูดว่าจะปรับราคาสินค้าลงตามที่เคยสัญญาไว้ อีกทั้งกระพาณิชย์ควรเข้ามาดูมาช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าในเรื่องของราคาน้ำตาล

ด้านลูกค้าที่ชอบกินขนมหวานบอกว่าหากขนมหวานต้องขึ้นราคาไปกว่านี้ ก็คงต้องปรับลดปริมาณการซื้อลงเช่นหากเคยซื้อกิน 3 ถึงก็จะต้องลดลงเหลือ 1-2 ถุงแทน

ขณะที่นายจรัญ พาต่อ พ่อค้าร้านของชำในตลาดกล่าวว่า ตอนนี้ราคาน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นทุกวัน เมื่อก่อนราคา กิโลกรัมละ 22 บาท ขยับขึ้นมาที่ละบาท จนตอนนี้อยู่ที่ราคาส่ง 27 บาท ทำให้ตนเองต้องขายในราคากิโลกรัมละ 28 บาท อยากให้น้ำตาลทรายราคาลงกว่านี้ เพราะพวกพ่อค้าแม่ค้าขนมหวานต่างบ่นกันอุบว่าน้ำตาลแพงจัง แต่ก็ต้องซื้อ เพราะขนมหวานส่วนใหญ่ต้องใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบ อยากให้รัฐบาลช่วยปรับลดราคาน้ำตาลทรายให้ถูกลงกว่านี้ เพราะราคาน้ำตาลทรายขึ้นจนน่าตกใจ