คัดลอก URL แล้ว
‘วิโรจน์’ จี้ ‘สุทิน’ ตอบคำถาม 8 ข้อ ปมเรือดำน้ำ

‘วิโรจน์’ จี้ ‘สุทิน’ ตอบคำถาม 8 ข้อ ปมเรือดำน้ำ

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค “Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ถึงประเด็นที่กองทัพเรือ ปฏิเสธเข้าชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องเรือดำน้ำ ต่อกมธ.ทหาร เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ตามที่ได้แจ้งให้ทุกท่านทราบ

ในวันพฤหัสบดี ที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ทาง กมธ.ทหาร ได้เชิญกองทัพเรือให้มาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับกรณี เรือดำน้ำ แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลา 9.00 น. โดยประมาณ ของวันประชุม กมธ.ทหาร ได้รับหนังสือลงวันที่ 25 ต.ค. 66 จากกองทัพเรือว่า ยังไม่สามารถมาชี้แจงต่อ กมธ.ทหารได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจน ครบถ้วน เพียงพอ

เหตุผลดังกล่าวสร้างความสงสัย ต่อ คณะกรรมาธิการทุกท่านอย่างมาก เนื่องจากการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นได้อนุมัติหลักการไปตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2558 แล้วจะยังไม่มีความชัดเจน ได้อย่างไร หากผ่านมา 8 ปี แล้วยังไม่มีความชัดเจน และพอมีปัญหาในการจัดซื้อเกิดขึ้น ก็มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการจัดซื้อไปซื้อเรือฟริเกตทันที มันก็พอจะเป็นคำตอบให้กับสังคมได้ว่า #เรือดำน้ำ ไม่น่าจะมีความจำเป็น อย่างที่เคยยืนยัน

อย่างไรก็ตาม ทาง กมธ.ทหาร ได้มีมติให้ทำหนังสือเชิญไปอีกครั้งหนึ่ง โดยในครั้งนี้ ให้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ผบ.ทร. ด้วย โดยได้ส่งประเด็นคำถามให้ทราบล่วงหน้า 8 ประเด็น คือ

โดย กมธ.ทหาร จะย้ำไปว่า ใน 8 ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ขอให้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจัดส่งเอกสาร หรือตอบเป็นหนังสือกลับมาในเบื้องต้นได้ และหากยังไม่พร้อมมาชี้แจงกับ กมธ.ทหาร ก็ขอให้แจ้งกลับมาด้วยว่า จะพร้อมมาชี้แจงได้เมื่อใด

ผมอยากจะส่งข้อความด้วยความปรารถนาดี ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า อย่างไรก็ตาม สัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นสัญญาแบบ G2G ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ หากมีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญในสัญญา อย่างกรณีที่จะแลกเรือดำน้ำเป็นเรืออย่างอื่น อย่างไรก็ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา นั่นหมายความว่า ในท้ายที่สุดก็ต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดเป็นการสาธารณะอยู่ดี เพราะถ้าไม่มีรายละเอียดข้อมูลใดๆ ก็คงไม่มีสมาชิกรัฐสภาคนไหนกล้าที่จะยกมือให้

และขอแนะนำเพิ่มเติมว่า อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยงไม่นำเอาเรื่องนี้ เข้ามาขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งอาจเข้าข่าย เป็นการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ และอาจจะซ้ำรอยกับกรณีโครงการจำนำข้าวได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง