ร้อยตำรวจเอกสุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ กองคดีฮั้วประมูล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีฮั้วประมูลของบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด และนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก หลังดีเอสไอร่วมกับอัยการมีความเห็นว่าการประมูล 19 โครงการ มูลค่ากว่า 1,210 ล้านบาท มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีนิติกรรมอำพราง พบพิรุธในกระบวนการฮั้วประมูล และได้ขอหมายค้นเข้าตรวจค้นจุดเป้าหมาย 5 จุด ในจังหวัดนครปฐม และราชบุรี ได้แก่ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของพ่อนันนก บริษัทน้องชายของกำนันนก , บ้านภรรยานายหน่อง มือปืนที่ถูกวิสามัญ และบ้านของบุคคลที่จัดทำการฮั้วประมูล โดยสามารถยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประมูล และโทรศัพท์มือถือที่มีหมายเลขเชื่อมโยงกับเอกสารที่ยึดได้จำนวนมาก นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ
ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนเชื่อได้ว่ามีการฮั้วประมูล จากการที่มีผู้ซื้อซองเสนอราคาจำนวนมาก แต่กลับยื่นซองประมูลเพียง 3-4 ราย และราคาชนะประมูลก็ชนะกันเพียงเล็กน้อย รวมถึงแต่ละโครงการมีราคาประมูลใกล้เคียงกัน โดยกลุ่มที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจัดฮั้วประมูล เบื้องต้นเป็นบุคคลของบริษัทเอกชน ซึ่งจากการสืบสวนบางรายพบว่าเชื่อมโยงกับหน่วยงานรัฐ โดยกลุ่มบุคคลนี้จะทำหน้าที่หาข้อมูลบริษัทที่เสนอราคา หรือซื้อซอง และเข้ากีดกั้นไม่ให้เสนอราคาแข่งด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งการให้ผลประโยชน์ตอบแทน แลกกับการไม่ยื่นซองประมูลแข่ง แต่หากไม่ยินยอมก็จะใช้วิธีข่มขู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพยานบริษัทที่ซื้อซองกว่า 50 บริษัท พบว่ามีพยาน 1 คนที่ให้การว่าถูกข่มขู่ และได้เข้าโครงการคุ้มครองพยานแล้ว ส่วนบริษัทที่เหลือได้เข้าให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว มีเพียงไม่กี่บริษัทที่ขอเลื่อนและขอส่งเอกสารภายหลัง แต่ยืนยันไม่มีผลกระทบต่อคดี เพราะดีเอสไอจะมีการเรียกบางบริษัทมาสอบเพิ่มเติมอยู่แล้ว
ทั้งนี้หากพบพยานหลักฐานชัดเจนว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็จะมีการเรียกมารับทราบข้อหา แต่เบื้องต้นขณะนี้ ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับบุคคลใด ส่วนเส้นทางการเงินหากเชื่อมโยงกับตัวกำนันนก หรือการประมูลโครงการของรัฐโครงการอื่น ดีเอสไอก็จะขยายผลสืบสวนทั้งหมด