คัดลอก URL แล้ว
กวาดล้างน้ำหวานสุดฮิต ผสมโคเดอีนมอมเมาเยาวชน

กวาดล้างน้ำหวานสุดฮิต ผสมโคเดอีนมอมเมาเยาวชน

วันที่ 17 ตุลาคม 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปคบ. พร้อมด้วย นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันปฏิบัติการ กรณีกวาดล้างผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำหวานต้องสงสัยว่าผสมโคเดอีน (ยาเสพติดให้โทษประเภท 2) และยาไม่มีทะเบียนอื่น ๆ ตรวจค้น 6 จุด ตรวจยึดของกลาง 32 รายการ เป็นผลิตภัณฑ์น้ำหวานผิดกฎหมายต้องสงสัยว่าผสมสารต้องห้าม จำนวน 865 ขวด มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่จากประชาชนให้ตรวจสอบการขายยาผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ “Legendtean Syrup” ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “Legendtean Syrup” และเว็บไซต์ http://www. legendlean.com ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกำลังระบาด และเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น โดยการนำไปผสมน้ำอัดลม, ยาบางชนิด หรือดื่มโดยไม่ผสมอะไรเลย เพื่อสร้างความมึนเมา

จากการตรวจสอบเว็ปไซต์ดังกล่าว พบว่ามีการลงโฆษณาขายยาแผนปัจจุบัน และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่รับประทานแล้วเกิดอาการมึนเมา เช่น ยาน้ำแก้ไอ แก้แพ้ ทรามาดอล(Tramadol), ผลิตภัณฑ์ LegendLean & Lean US., PROMETHAZINE WITH CODEINE SYRUP ยี่ห้อ Qualitest เป็นต้น

อีกทั้งมีการโฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์น้ำหวานดังกล่าวว่ารับประทานแล้ว ทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะใหม่, ผ่อนคลาย, เพลิดเพลิน, ล่องลอย รวมถึงมีการเขียนรีวิวในเพจเฟซบุ๊คว่ารับประทานแล้ว เมา หลับง่าย เป็นต้น ผลของการใช้ยาแก้ไอ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีโคเดอีนเป็นส่วนผสม

ในกรณีที่นำไปใช้ในทางที่ผิด จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพ อาทิเช่น คลื่นไส้ อาเจียน ง่วงซึม หากใช้ประมาณมาก อาจทำให้หยุดหายใจ ช็อก และหัวใจหยุดเต้นและที่สำคัญ การใช้ยาติดต่อเป็นเวลานานทำให้เกิดการติดยาทั้งทางกายและจิตใจ และมีอาการถอนยาเมื่อขาดยา เช่นเดียวกับการติดมอร์ฟีนหรือเฮโรอีน ซึ่งจะต้องเข้ารับการบำบัดรักษาจึงจะหายจากการติดยาได้

เมื่อทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ขายบนเว็บไซต์ดังกล่าว และส่งผลิตภัณฑ์ PROMETHAZINE WITH CODEINE SYRUP ตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบเมลาโทนินซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ จึงได้สืบสวนจนทราบแหล่งผลิต แหล่งจัดจำหน่าย จึงเป็นที่มาของการระดมกวาดล้างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในครั้งนี้

ต่อมาในห้วงวันที่ 30 มิถุนายน – 11 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) จึงได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจค้น สถานที่จัดเก็บ และผู้จำหน่ายในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี และอ่างทอง จำนวน 6 จุด มีรายละเอียดดังนี้

  1. บ้านพักย่านซอยพหลโยธิน 67/1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ Legend-Lean จำนวน 162 ขวด
  2. บ้านพักย่านซอยอยู่วิทยา 16 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ Legend-Lean จำนวน 6,600 ขวด และผลิตภัณฑ์อื่นที่เป็นความผิด จำนวน 4 รายการ
  3. บ้านพักย่านซอยพระนคเรศ แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ตรวจยึด ผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ Lean จำนวน 96 ขวด, และผลิตภัณฑ์ยาน้ำเชื่อมแก้ไอ(ต้องสงสัยว่ามีส่วนผสมของโคเดอีน) ยี่ห้อ Neo-Cough จำนวน 40 ขวด, ผลิตภัณฑ์ยาต้องสงสัยว่าเป็นยาไม่มีทะเบียน และผลิตภัณฑ์อื่นที่เป็นความผิด จำนวน 4 รายการ
  4. บ้านพักย่านซอยพัฒนาการ 25 อาคารพัฒนาการไลท์ คอมเพลกซ์ตึก 4 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ Legend-Lean จำนวน 402 ขวด และผลิตภัณฑ์อื่นที่เป็นความผิด จำนวน 10 รายการ
  5. บ้านพักแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ตรวจยึด ตรวจยึดผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ Legend-Lean จำนวน 15 ขวด
  6. บ้านพักแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง ตรวจยึดผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ Legend-Lean จำนวน 205 ขวด และผลิตภัณฑ์อื่นที่เป็นความผิด จำนวน 11 รายการ

รวมตรวจยึดของกลางทั้งหมด 32 รายการ เป็น 1. ยาน้ำเชื่อมแก้ไอยี่ห้อ Neo-Cough (ต้องสงสัยว่ามีส่วนผสมของโคเดอีน) จำนวน 40 ขวด, ยาไม่มีทะเบียน และผลิตภัณฑ์น้ำหวานยี่ห้อ Legend-Lean รวม 865 ขวด มูลค่ากว่า 1,126,850 บาท พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึด ส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยผลิตภัณฑ์ที่ระบุตัวยาแผนปัจจุบัน และสารเสพติดข้างต้น อยู่ระหว่างการตรวจหาสารที่เป็นอนุพันธ์ทางยาและสารเสพติดจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อยืนยันผลตรวจต่อไป

  1. เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ.2522 “จำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง” ระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
  2. หากตรวจพบว่ามีส่วนผสมของยาแผนปัจจุบัน หรือมีการผสมสารต้องห้ามในผลิตภัณฑ์ที่ระบุเป็นอาหาร จะเป็นความผิด ฐาน“จำหน่ายอาหารที่ไม่บริสุทธิ์” ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  3. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 12 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
  4. หากตรวจพบโคเดอีน(ยาเสพติดให้โทษประเภท2) จะเป็นความผิดประมวลกฎหมายยาเสพติด ฐาน “ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือประเภท 4ฯ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท

พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กระแสการนำผลข้างเคียงจากยา กลุ่มแก้แพ้ แก้ไอ แก้ปวด ไปใช้เป็นส่วนผสมเครื่องดื่มในลักษณะสารเสพติดที่เรียกว่า “4×100” หรือ Lean (ลีน) เพื่อให้เกิดอาการมึนเมา วิงเวียนขาดสติ เป็นที่นิยมมากและมีอัตราสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น ถือว่าเป็นอันตรายที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพ อาจทำให้เกิดการติดยาทั้งทางกายและจิตใจ และมีอาการถอนยาเมื่อขาดยา

รวมถึงอาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนตามมา บก.ปคบ. จะดำเนินจับกุมอย่างต่อเนื่อง และจะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด โดยประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค


ข่าวที่เกี่ยวข้อง