คัดลอก URL แล้ว
DAY 9 : นับถอยหลังบุกฉนวนกาซา 1 แสนนาย / ฮิซบุลลอห์-อิสราเอลระอุ

DAY 9 : นับถอยหลังบุกฉนวนกาซา 1 แสนนาย / ฮิซบุลลอห์-อิสราเอลระอุ

สถานการณ์การสู้รบกันระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาถึงวันที่ 9 แล้ว โดยอิสราเอลยังคงเดินหน้าโจมตีไปยังพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวการเตรียมพร้อมที่จะเดินหน้าบุกภาคพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซา ด้วยกำลังพลราว 1 แสนนาย

ฮิสราเอลเดินหน้าโจมตีต่อเนื่อง

กองทัพอิสราเอลยังคงเปิดเดินหน้าโจมตีไปยังพื้นที่เป้าหมายในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโต้ที่กลุ่มฮามาสยังคงยิงจรวดโจมตีเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอล

กองทัพอิสราเอลได้ประกาศถึงความพร้อมในการขยายของเขตการโจมตีฉนวนกาซา เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส โดยจะมีการปฏิบัติการรุกทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สอดประสานและสนับสนุนปฏิบัติการ

ผู้นำกองทัพอิสราเอล ระบุว่า นับจากนี้ไป อยู่ที่ความพร้อมของการปฏิบัติการที่จะเดินหน้าต่อ โดยเวลานับจากนี้เป็นจะถูกนับถอยหลังในระดับ “ชั่วโมง” เมื่อพร้อมก็จะเปิดปฏิบัติการทันที

ซึ่งมีกระแสข่าวรายงานว่า หนึ่งในสาเหตุที่ยังไม่มีการบุกในขณะนี้ เนื่องจากรอความพร้อมของสภาพอากาศให้มากกว่านี้ เพื่อให้การสนับสนุนทางอากาศสามารถปฏิบัติการได้เต็มประสิทธิภาพ

เมื่อวานที่ผ่านมา ทางด้านของกองทัพอิสราเอลได้เปิดเผยว่า ได้มีการส่งชุดปฏิบัติการขนาดเล็กเข้าไปในฉนวนกาซาแล้ว ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า มีการพบร่างของตัวประกันบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุจำนวน ที่ตั้ง รวมถึงสาเหตุของการเสียชีวิตแต่อย่างใด

การโจมตีของกลุ่มฮามาสมายังอิสราเอลในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
( ข้อมูล 15 ต.ค. – 12.00 น. )

ฮามาสยังเปิดการโจมตีด้วยจรวด

ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แม้ว่าจะถูกโจมตีจากอิสราเอล แต่กลุ่มฮามาสยังคงมีการยิงจรวดจากฉนวนกาซาเพื่อโจมตีเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอล และยังคงมีความพยายามแทรกซึมเข้าไปยังพื้นที่ของอิสราเอลอยู่เป็นระยะ ๆ

หัวหน้ากลุ่มฮามาสได้กล่าวว่า อิสราเอลกำลังปฏิบัติการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ต่อฉนวนกาซา ซึ่งชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนถูกปิดล้อม และไม่สามารถหนีออกมาได้

นอกจากนี้ยังระบุว่า ประชาชนในฉนวนกาซา อยู่ในดินแดนของพวกเขาเอง และจะไม่ออกจากฉนวนกาซา จะปักหลักเผชิญหน้ากับกลุ่มไซออนนิสต์ที่ป่าเถื่อนในดินแดนแห่งนี้

การยิงปะทะของกลุ่มฮามาส-อิสราเอลในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
( ข้อมูล 15 ต.ค. – 12.00 น)

ยอดเสียชีวิตในกาซาพุ่ง 400 รายในวันเดียว

จากการปิดล้อมเบ็ดเสร็จ และมีการสั่งให้พลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องอพยพลงทางด้านใต้ของแม่น้ำกาซา โดยที่อิสราเอลยังคงมีการโจมตีไปยังจุดเป้าหมายในฉนวนกาซานั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 400 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 1,500 ราย ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยอดล่าสุดของผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซามากกว่า 2,215 รายแล้ว โดยในจำนวนนี้ เป็นเด็กกว่า 700 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 8,714 คน

ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอล ยังคงอยู่ที่ราว 1,300 ราย บาดเจ็บกว่า 3,400 ราย

แพทย์ในโรงพยาบาลหลายแห่งทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ไม่สามารถอพยพออกจากโรงพยาบาลได้ เนื่องจากยังคงมีผู้ป่วยอาการหนักที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งการย้ายผู้ป่วยเหล่านั้น ไม่ต่างจากการพาออกไปเสียชีวิตบนท้องถนน

และจากเหตุการณ์โจมตีของอิสราเอลส่งผลให้ มีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 28 ราย โรงพยาบาล 15 แห่งได้รับความเสียหาย โดยมี 2 แห่งที่ไม่อยู่ในสถานะที่จะให้บริการได้ รวมถึงมีรถพยาบาลอีก 23 คนที่ถูกโจมตีเสียหาย หรือถูกทำลาย

กังวล สงครามขยายตัว

ท่าทีของเลบานอน และซีเรีย ที่ถูกเหมือนจะเริ่มขยับในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา โดยการปะทะกันระหว่างกองกำลังอิสราเอล และกลุ่มฮิซบุลลอห์ทางตอนใต้ของเลบานอนเริ่มหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

มีการยิงปะทะกัน รวมถึงมีการยิงจรวดข้ามมายังที่ตั้งของกองทัพอิสราเอล และเช่นเดียวกันในพรมแดนระหว่างอิสราเอลและซีเรีย ก็มีการโจมตีด้วยจรวดจากดินแดนของซีเรียออกมาด้วยจำนวน 2 ครั้ง ทำให้กองทัพอิสราเอลได้ยิงปืนใหญ่ตอบโต้กลับไป

ในขณะที่ซีเรียแสดงท่าทีไม่พอใจ ทั้งการปฏิบัติการของอิสราเอลที่เปิดโจมตีฉนวนกาซา พร้อมสั่งอพยพชาวปาเลสไตน์ รวมไปถึงการที่อิสราเอลส่งเครื่องบินไปโจมตีสนามบินดามัสกัส และสนามบินในเมืองเมืองอะเลปโป ของซีเรีย

กระทรวงกลาโหมของซีเรียได้แถลงว่า การโจมตีของอิสราเอลต่อสนามบินอะเลปโปนั้น ส่งผลให้เกิดความเสียหาย และสนามบินไม่สามารถใช้การได้ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการยืนยันความพยายามในการรุกรานของอิสราเอล เช่นเดียวกับที่กำลังก่ออาชญากรรมต่อชาวปาเลสไตน์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอ้างว่า ขบวนคาราวานที่คาดว่าจะเป็นของอิหร่านที่บริเวณพรมแดนซีเรีย – อิรักถูกโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า น่าจะเป็นฝีมือของอิสราเอล แต่ยังไม่มีคำยืนยันจากทางการอิสราเอลแต่อย่างใด

ทางด้านอิหร่าน ได้ส่งสัญญาณเตือนต่อการที่อิสราเอลว่า การเดินหน้าก่ออาชญากรรมต่อฉนวนกาซา อาจจะส่งผลให้เกิด “การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่” ได้

หลายฝ่ายกดดัน “อิสราเอลกำลังละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ”

แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นฝ่ายฮามาสที่เปิดฉากการโจมตีไปยังอิสราเอลก่อนในเช้าตรู่ของวันที่ 7 ต.ค. แต่การที่อิสราเอลได้ประกาศตัดน้ำ ตัดไฟ ทำการปิดล้อมเบ็ดเสร็จพื้นที่ฉนวนกาซาที่มีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน กำลังกลายเป็นข้อถกเถียงถึงความเหมาะสมในมาตรการดังกล่าว

หลายฝ่ายมองว่า แม้ฮามาสจะเป็นฝ่ายเปิดฉากการโจมตีก่อน แต่การลงโทษแบบเหมารวมทั้งฉนวนกาซาของอิสราเอล โดยเฉพาะการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า รวมถึงการปิดล้อมแบบเบ็ดเสร็จที่ไม่อนุญาตให้มีการเข้าออกพื้นที่ ทั้งทางพื้นดิน อากาศ หรือแม้แต่ทางน้ำ จะส่งผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องในวงกว้างมาก และการโจมตีไปยังพื้นที่เป้าหมายต่าง ๆ ที่อิสราเอลระบุว่า เป็นที่ซ่องสุมกำลังของกลุ่มฮามาสอย่างหนักนั้น ดูจะส่งกระทบต่อพลเรือนอย่างมากด้วยเช่นกัน

นายกฯ เปโดร ซานเชซ ของสเปน ส่งเสียงเตือนไปยังอิสราเอลว่า อิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง แต่ควรอยู่ในขอบเขตของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

แฟ้มภาพ – ซินหัว

ทางด้านของเม็กซิโก รวมถึงยูเครน ได้มีการส่งเสียงเรียกร้องไปยังอิสราเอลให้พิจารณาเปิดเส้นทางอพยพเพื่อมนุษยธรรม เพื่อให้เปิดเส้นทางกับพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องลี้ภัยออกไปยังอิยิปต์ได้ แต่ในขณะนี้ อิสราเอลยังไม่อนุญาตให้เปิดเส้นทางดังกล่าว และไม่อนุญาตให้ผู้ใดออกจากฉนวนกาซาแต่อย่างใด

นายกฯ ของไอร์แลนด์ นาย ลีโอ วารัดการ์ ได้ตำหนิไปยังอิสราเอลว่า อิสราเอลมีสิทธิในการป้องกันตนเอง แต่การตัดน้ำ ตัดไฟไปยังฉนวนกาซานั้น กำลังเป็นการคุกคามและลงโทษแบบเหมารวม

นายฮาคาน ฟิดาน รมต.ต่างประเทศของตุรกี กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการที่จะต้องหยุดยั้งความขัดแย้งไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ และเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพระหว่างชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ ซึ่งตุรกีไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนในฉนวนกาซา

“การตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า ตัดเชื้อเพลิง นั่นไม่ใช่วิธีที่รัฐที่เป็นประชาธิปไตยควรปฏิบัติ”

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติได้แสดงความเห็นว่า ชาวปาเลสไตน์กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สิ่งที่ชาวโลกกำลังจะได้เห็นอาจจะร้ายแรงเหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นใน นัคบา เมื่อปี 1948 และ นัคซา ปี 1967 แต่จะรุนแรงยิ่งกว่า ซึ่งประชาคมโลกควรต้องยับยั้งเรื่องนี้

ทางด้านของรัสเซียเรียกร้องให้มีการลงมติให้อิสราเอลและกลุ่มฮามาสหยุดยิง เพื่อเปิดเส้นทางการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือน และเด็กในฉนวนกาซา

กองเรือบรรทุกเครื่องบิน สหรัฐฯ ลำที่สองถึงที่หมาย

เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ USS Dwight D Eisenhower พร้อมกองเรือเดินทางถึงด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว เพื่อเข้าร่วมสนับสนุนอิสราเอล โดยจะปฏิบัติงานร่วมกันกับ เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Gerald R Ford ที่เดินทางไปถึงตั้งแต่ช่วงอาทิตย์ก่อน

ทางด้านของสหรัฐฯ ยังคงระบุว่า การส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปนั้น ก็เพื่อยับยังอิหร่าน และกลุ่มอื่น ๆ ที่จะเข้าร่วมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังกลุ่มต่าง ๆ ว่า “ควรคิดอย่างรอบคอบ”

ทำเนียบขาว ได้ออกมาย้ำถึงแนวทางของสหรัฐฯ ระบุว่า การสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลนั้น ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

แฟ้มภาพ – ซินหัว

การชุมนุนมสนับสนุนปาเลสไตน์ขยายวงกว้างขึ้น

ประชาชนในหลายประเทศเริ่มออกมารวมตัวในการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดโจมตีไปยังฉนวนกาซา และแสดงออกเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์มากขึ้น เช่นที่ ในเมืองดับลิน ไอร์แลนด์, เมืองมิสซิสซอกาของแคนาดา, เมืองเฮลซิงกิ ฟินแลนด์, เมืองเกซอนซิตี ฟิลิปปินส์

ส่วนที่สหราชอาณาจักร ก็มีการเคลื่อนไหวในแบบเดียวกันทั้งในลอนดอน แมนเชสเตอร์ และอีกหลายเมือง

ที่ฝรั่งเศส ผู้ให้บริการดาวเทียม Eutelsat ได้นำสัญญาณของช่อง Al Aqsa TV ขึ้นออกอากาศ โดยให้เหตุผลว่า เป็นการรับประกันถึงเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนทั่วโลกที่มีสิทธิจะได้รับทราบสถานการณ์


ข่าวที่เกี่ยวข้อง