DAY 7 : อิหร่านเริ่มขยับ / สหรัฐฯ – อังกฤษส่งเรือกดดัน / เตรียมปฏิบัติการ

ก้าวเข้าสู่วันที่ 7 ภายหลังการเปิดฉากโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล สถานการณ์ในภาพรวมนั้น อิสราเอลควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น และเดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซาอย่างหนัก

…

อิสราเอลถล่มหนักต่อเนื่อง

กองทัพอากาศของอิสราเอล ยังคงเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาอย่างหนัก โดยได้รายงานว่า อิสราเอลได้ทิ้งระเบิดโจมตีฉนวนกาซาไปแล้ว 6,000 ลูก ซึ่งยังมีรายงานอ้างว่า กองทัพอากาศของอิสราเอลได้โจมตีไปยังสนามบิน 2 แห่งในกรุงดามัสกัสของซีเรียด้วย

ทางด้านของกองทัพอิสราเอลได้กล่าวว่า กองทัพมีความพร้อมอย่างมากในการเดินหน้าบุกภาคพื้นดินเข้าไปยังฉนวนกาซา เพื่อจัดการกับกองกำลังฮามาสที่อาศัยอุโมงค์ลับใต้ดินในการหลบการโจมตีทางอากาศ รวมถึงมีโอกาสในการที่จะกำจัดผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส และช่วยตัวประกันได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ กองทัพยังคงต้องรอคำสั่งจากฝ่ายการเมืองอีกครั้งว่า จะเปิดไฟเขียวให้เคลื่อนทัพได้เมื่อใด

ซึ่งล่าสุด ยูเอ็นได้ประกาศว่า อิสราเอลได้แจ้งต่อยูเอ็นว่า ให้ทำการอพยพเจ้าหน้าที่ และพลเรือนไปยังทางตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยอิสราเอลจะให้เวลา 24 ชั่วโมงในการอพยพในครั้งนี้ แต่ทางอิสราเอลยังไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า คำเตือนนี้ จะเป็นสัญญาณของการบุกภาคพื้นดินของทางกองทัพอิสราเอลหรือไม่

…

ฉนวนกาซาวิกฤติหนัก

การโจมตีจากฉนวนกาซาออกมายังจุดต่าง ๆ ของอิสราเอลยังคงมีอยู่เป็นระยะ ๆ แต่มีแนวโน้มการยิงออกมาที่ลดลง ยังคงมีการปะทะกันบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่ในขณะนี้ไปอยู่ที่เขตเวสต์แบงก์

ฉนวนกาซาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่อย่างมาก จากการโจมตีอย่างหนักของอิสราเอล โดยเมื่อวานที่ผ่านมา ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา มีการยิงจรวดออกไปยังกรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอลหลายลูก ทำให้พื้นที่นี้ กลายเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีจากอิสราเอลอย่างหนัก กว่าที่ผ่านมา

ทางกลุ่มฮามาสระบุว่า การโจมตีของอิสราเอลกำลังเป็นการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และไม่มีพื้นที่ใดในฉนวนกาซา เป็นพื้นที่ปลอดภัยอีกแล้ว ทุกอาคารถูกโจมตีได้ทั้งหมด ผู้คนไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง เด็ก หรือคนชรา ล้วนแล้วแต่เป็นเป้าหมายของอิสราเอล

ซึ่งทางกลุ่มฮามาสได้ยื่นคำขอไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์ที่จำเป็น รวมถึงสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ เนื่องจากการถูกปิดล้อมของอิสราเอล

…

เวสต์แบงก์ เริ่มปะทะ

ท่ามกลางการโจมตีอย่างหนักต่อฉนวนกาซา สถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์ก็เริ่มตึงเครียดขึ้น เมื่อมีการประท้วงมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่หญิงชาวปาเลสไตน์รายหนึ่ง ถูกตำรวจอิสราเอลยิงจนเสียชีวิตที่บริเวณจุดตรวจในเขตเวสต์แบงก์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานระบุว่า ตำรวจของอิสราเอลได้เข้ารื้อถอนร้านพิซซาแห่งหนึ่งในเขตเวสต์แบงก์ หลังจากที่เจ้าของร้านดังกล่าวได้ทำโฆษณา พาดพิงถึงผู้รอดชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส

และมีการปะทะกันหลายจุด แม้ว่าจะเป็นการปะทะกันขนาดใหญ่ไม่ใหญ่มากนัก แต่มีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่เวสต์แบงก์

…

ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มไม่หยุด

เหตุการณ์ในครั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยทางด้านของอิสราเอลระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,300 คน บาดเจ็บมากกว่า 3,200 ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ระบุว่า ในฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,537 ราย และบาดเจ็บอีก 6,612 ราย

ในขณะที่เขตเวสต์แบงก์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 650 คน

…

กาชาดระบุ ผู้คนนับล้านขาดปัจจัย 4

คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี (International Committee of the Red Cross – ICRC) ระบุว่า ในขณะนี้ ประชาชนกว่า 2 ล้านคนในฉนวนกาซากำลังเผชิญกับการขาดแคลนปัจจัย 4 ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็น น้ำ ไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย

ผู้คนหลายแสนคนไม่มีที่พักอาศัย ไม่สามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ และระบบสาธารณสุขที่มีกำลังล่มสลาย โดยทางองค์การอนามัยโลกรายงานว่า โรงพยาบาลและบริการทางการแพทย์ในฉนวนกาซามาถึงจุดแตกหักแล้ว เนื่องจากไม่สามารถรอบรับจำนวนผู้บาดเจ็บได้เพียงพอ ทั้งยังขาดแคลนไฟฟ้า และเวชภัณฑ์ที่จำเป็น และจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยในกลุ่มเปราะบางทั้งหมด

ซึ่งที่ผ่านมา สถานพยาบาลในฉนวนกาซาได้ถูกโจมตีไปแล้วกว่า 34 ครั้ง มีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิต 11 คน บาดเจ็บ 16 คน และโรงพยาบาล 19 แห่งได้รับความเสียหาย รวมถึงรถพยาบาลอีก 20 คันอีกด้วย และยังมีเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ 12 คน ที่เสียชีวิตจากการโจมตีฉนวนกาซาอีกด้วย

นอกจากนี้ ระบบบำบัดน้ำเสียได้ถูกทำลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้น้ำเสียและสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม และกำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพในพื้นที่ฉนวนกาซา

…

จับตาอิหร่าน, ฮิซบุลลอห์ ในเลบานอน

ความตึงเครียดในภูมิภาคยังคงคุกรุ่นอย่างมาก จากท่าทีของกลุ่มฮิซบุลลอห์ ที่อาจจะเคลื่อนไหวเปิดแนวรบหลักจากทางด้านของเลบานอน ซึ่งศักยภาพของกลุ่มฮิซบุลลอห์นั้น มีความพร้อมในขณะนี้ค่อนข้างมาก และหลายฝ่ายมองว่า การร่วมวงของกลุ่มฮิชบุลลอห์นั้น จะส่งผลกระทบต่ออิสราเอลอย่างมาก

แม้ในขณะนี้ ยังคงมีการยิงโจมตี หรือใช้โดรนโจมตีต่ออิสราเอลจากกลุ่มฮิซบุลลอห์ข้ามมากจากฝั่งของเลบานอน โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีรายงานการยิงออกมาจากเลบานอนราว 3 ลูกเท่านั้น แต่การตอบโต้ของอิสราเอลที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเลบานอนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงการปะทะ เริ่มอพยพออกจากพื้นที่แล้ว

นั่นจึงต้องจับตากันต่อว่า หากชาวเลบานอนในพื้นที่สีแดงอพยพออกไปแล้ว ฮิซบุลลอห์จะเปิดแนวรบใหม่กับอิสราเอลอย่างเต็มตัวหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ของเลบานอนได้กล่าวว่า ขอให้กลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่อยู่ในเลบานอนไม่ตกหลุมพรางที่อิสราเอลพยายามยั่วยุ และละเมิดอธิปไตยของเลบานอน

ซึ่งทางด้านของอิหร่านนั้น ได้ระบุว่า หากอิสราเอลยังคงเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง การสู้รบที่เกิดขึ้นก็มีความเป็นไปได้ “ที่จะเปิดแนวรบอื่น”

…

สหรัฐฯ – อังกฤษ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินตรึงกำลัง

ทางด้านของสหรัฐฯ ที่ผ่านมาได้มีการส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Gerald R. Ford ไปประจำการในด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว และสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Dwight D. Eisenhower เข้าไปเพิ่มเติมอีกเป็นลำที่สอง แต่ยังคงให้เหตุผลว่า เป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์จำเป็น แต่ยังไม่มีคำสั่งปฏิบัติการใด ๆ ในขณะนี้

สำหรับการส่งกองกำลังทหารสหรัฐฯ ลงพื้นที่ในอิสราเอลนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวระบุว่า ในขณะนี้ ยังไม่มีแผนดังกล่าวแต่อย่างใด

จากการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ในภูมิภาคทำให้มีกระแสข่าวว่า มีเครื่องบินของทหารสหรัฐฯ มาลงที่ ฐานทัพอากาศอัลดาฟราในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อให้การสนับสนุนอิสราเอล ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกมาชี้แจงว่า เครื่องบินรบของสหรัฐฯ นั้นเป็นการดำเนินการภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ แล้ว

ทางด้านของสหราชอาณาจักรระบุว่า อังกฤษจะส่งเครื่องบินตรวจการณ์ เรือสนับสนุนกองทัพเรือ 2 ลํา และนาวิกโยธินประมาณ 100 นายไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เพื่อสนับสนุนอิสราเอล และช่วยป้องกันไม่ให้การสู้รบในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นอย่างฉับพลัน

โดยสหราชอาณาจักรมีเรือรบสองลําในภูมิภาค คือ HMS Duncan ที่อยู่ภายใต้กองกำลังนาโต ซึ่งประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกและ HMS Lancaster ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือถาวรของสหราชอาณาจักรในอ่าวเปอร์เซีย

…

ติงอิสราเอลละเมิดมนุษยธรรม

จอร์แดนได้ส่งสัญญาณไปยังอิสราเอล โดยระบุว่า การที่อิสราเอลปฏิเสธ และไม่เปิดช่องว่างให้มีการช่วยเหลือประชาชนในฉนวนกาซา โดยยังคงปิดล้อมแบบเบ็ดเสร็จเช่นนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงด้านสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า และเชื้อเพลิง

ซึ่งจอร์แดนได้ประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านทางสํานักงานบรรเทาทุกข์แห่งสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

ทางด้านของรัสเซียได้ออกมาประณามการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลว่า เป็นการละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกำลังยกระดับความตึงเครียดในตะวันออกกลางมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ เพื่อส่งอาหาร และเวชภัณฑ์ไปยังฉนวนกาซา

ทางด้านของประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิซี แห่งอียิปต์ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ประชาชนของกาซาควรจะต้องได้อยู่ในแผ่นดินของพวกเขา โดยอิยิปต์มีจุดผ่านแดนจำนวน 1 จุดที่สามารถเปิดเส้นทางให้ประชาชนในฉนวนกาซาสามารถอพยพออกจากการปิดล้อมได้

…

ประท้วงในหลายประเทศ

การโจมตีของอิสราเอลต่อฉนวนกาซา ทำให้มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาร่วมเดินขบวนและประณามการโจมตีของอิสราเอลต่อฉนวนกาซา เช่น

กรุงปารีส ที่มีประชาชนนับพันคนออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้ ปลดปล่อยชาวปาเลสไตน์ และการประท้วงก็ลุกลามหนักมากยิ่งขึ้น ทำให้ตำรวจฝรั่งเศสได้เข้ามาทำการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ และมีการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย โดยทางการฝรั่งเศสได้ประกาศห้ามการชุมนุมเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ – ฮามาส และประกาศจะจับกุมตัวผู้ที่ร่วมประท้วง

ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีประชาชนจำนวนมากออกมาเดินขบวนสนับสนุนกลุ่มฮามาส ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมสถานการณ์และมีการปะทะกัน

---