เมื่อเวลา 16.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศบรูไน ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม.) วันที่ 10 ต.ค. ที่โรงแรม Empire Brunei นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม แสดงความห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นขณะนี้ และแสดงความเสียใจที่มีการสูญเสียของคนไทย รวมถึงมีผู้บาดเจ็บและถูกลักพาตัว เรื่องของความไม่สงบเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง ดังนั้นการดูแลผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้ง 2 ประเทศ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง โดยอยากให้เรื่องนี้ยุติด้วยสันติวิธีโดยเร็วที่สุด เพื่อลดการสูญเสียและบาดเจ็บ
เมื่อถามถึงเรื่องคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน นายกฯ กล่าวยืนยันว่ารัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายการทูต ที่มีความสัมพันธ์กับบุคคล และหลายๆรัฐบาล ก็ได้ต่อสายตรงพูดคุยกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง จึงขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่ขอให้มั่นใจว่าทุกทางที่ดำเนินการอยู่ พยายามทำทุกอย่างแล้ว และยังพยายามอย่างสูงสุด พร้อมคำนึงถึงอิสรภาพแล้ความปลอดภัยของผู้ที่ถูกจับกุมตัวเป็นสำคัญ ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของคนไทยในต่างแดนสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตและความปลอดภัย
เมื่อถามว่าตัวเลขคนไทยผู้เสียชีวิต ที่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากที่สุดนั้น นายกฯ กล่าวว่า เราเป็นประเทศที่สูญเสียมาก ณ เวลานี้จำนวน 18 คน จึงถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจว่าจะหยุดแค่นี้หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามสถานการณ์ เพราะเป็นเรื่องที่น่ากังวลและละเอียดอ่อนมาก ทั้งนี้ได้กำชับทางการทูตและการช่วยเหลือในทุกช่องทางและทุกวิถีทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวประกัน ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หรือ แรงงานไทย ส่วนการดูแลหลังจากนี้จะต้องดูแลให้ดีตามกฎหมาย แต่ละคนมีความเสียหายอย่างไรให้ยึดระเบียบที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจรัฐบาลทำทุกทางช่วยคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยอมรับกังวลตัวเลขคนไทยเสียชีวิตสูง กำชับทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือทุกวิถีทาง
นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มี 2 ทาง คือ สายการบินพาณิชย์ ที่จะเดินทางออกมาในวันที่ 11 ต.ค.และถึงไทยวันที่ 12 ต.ค.จำนวน 11 คน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บที่ต้องเร่งนำกลับมารักษา และ จากกองทัพอากาศ โดยเครื่องบินแอร์บัส A340 จะนำคนไทยเดินทางกลับมาอีก 150 คน ในวันที่ 14 ต.ค.และถึงไทยในวันที่ 15 ต.ค.โดยคนไทยที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยจากสถานทูตฯ แต่คงไม่มีใครรับประกันได้ เพราะเราไม่รู้ว่าความขัดแย้งนี้ จะลุกลามไปมากน้อยอย่างไร ตนจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องคิดว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทางการทูตไปสมทบอีก 4 คน เพื่อประสานงานเรื่องการอพยพ
เมื่อถามถึงข้อกังวลสิทธิการช่วยเหลือของผู้ที่เดินทางไปเป็นแรงงานไม่ถูกกฎหมาย จะดำเนินการอย่างไร เพราะหลายคนกังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้อีก จึงไม่ประสงค์กลับไทย นายกฯ กล่าวว่า ต้องลืมเรื่องนี้ไปก่อน เพราะเรื่องความปลอดภัยของคนไทยในต่างแดนสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตและความปลอดภัย ที่ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด
เมื่อถามต่อว่าตัวเลขคนไทยผู้เสียชีวิต ที่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากที่สุดนั้น นายกฯ กล่าวว่า เราเป็นประเทศที่สูญเสียมาก ณ เวลานี้จำนวน 18 คน ขณะที่สหรัฐอเมริกามี 9 คน จึงถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจว่าจะหยุดแค่นี้หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามสถานการณ์ที่อิสราเอลยึดพื้นที่คืนมา และดูว่ามีผู้หลงเหลือหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลและละเอียดอ่อนมาก
“ผมเชื่อว่ารัฐบาลไทยมีความพร้อม เพราะไม่ได้เตรียมเฉพาะเครื่องบินA 340 เพียงลำเดียว แต่ยังมีเครื่องบินC130 ของกองทัพอากาศที่พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเครื่องบินรวมทั้งหมด 5 ลำ สำหรับอพยพคนไทย ส่วนการดูแลหลังจากนี้จะต้องดูแลให้ดีตามกฏหมาย แต่ละคนมีความเสียหายอย่างไรให้ยึดระเบียบที่วางไว้” นายกฯ กล่าว