ทูตไทย ยืนยัน! คนไทยล็อตแรกถึงบ้าน 12 ต.ค.นี้แน่นอน ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่อง 11 ตัวประกัน
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นความไม่สงบในตะวันออกกลาง อิสราเอล และ กลุ่มฮามาส โดยระบุว่า สถานการณ์ที่อิสราเอลและปาเลสไตน์ยังมีความรุนแรง โดยอิสราเอลพยายามจะยึดพื้นที่ โดยมีการตัดน้ำตัดไฟในพื้นที่ฉนวนกาซา พร้อมกันนี้ทางการอิสราเอลได้อพยพคนไทยจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายออกมาได้มากขึ้นหลายร้อยคน
ส่วนตัวเลขคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย จาก 12 เป็น 18 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย ส่วนถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย
ขณะที่แรงงานไทยล็อตแรก 15 คนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย จะโดยสารด้วยเครื่องบินพาณิชย์สายการบิน อิสราเอล แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ LY083 มาพร้อมกันเลย 15 คน จะออกเดินทางวันที่ 11 ตุลาคม เวา 21.45 น. และถึงประเทศไทย เวลา 10.35 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม และ ขณะนี้ มีคนไทยแจ้งขอเดินทางกลับไทยแล้ว 3,226 คน
ด้าน นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้วิดิโอคอลอัปเดตสถานการณ์ในอิสราเอล ระหว่างการแถลงข่าวของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า สถานทูตไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังติดตามติดต่อพี่น้องแรงงานไทย แต่ตอนนี้ประเทศอยู่ในสภาวะสงคราม อิสราเอลมีการแบ่งโซนพื้นที่ ดังนั้นในการช่วยเหลือต้องไปช่วยทีละโซน ทุกเรื่องต้องใช้เวลานิดนึง ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจในข้อจำกัดนี้ด้วย
สำหรับประเด็นแรงงานไทย ที่ต้องการกลับบ้าน สามารถลงทะเบียน ได้ที่สถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ถ้าหากไม่สามารถลงได้ สามารถโทรศัพท์ Hotline ติดต่อเข้ามา และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เพื่อยืนยันข้อมูล ตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนประเด็นเรื่อง แรงงานงานไทย ที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการประสานผ่านช่องทางต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยทางการอิสราเอล ได้ให้คำมั่น ว่า จะพยายามดูแล ให้ความช่วยเหลือ คนทุกชาติอย่างเท่าเทียม และจะได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ขณะที่ตัวประกันทั้ง 11 คน ของไทยที่ถูกจับตัวไปนั้น ยังไม่สามารถระบุพิกัดได้
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นทางสังคมที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการซื้อขายแรงงาน ที่ประสงค์จะกลับประเทศไทย ส่งต่อให้กับนายจ้างคนใหม่ ทาง นางสาวพรรณนภา ยืนยันว่า เป็นการย้ายนายจ้าง เพื่อให้พี่น้องแรงงานไทย ได้มีรายได้ ในการดำรงชีพในอิสราเอลต่อ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ลงทะเบียนประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ขณะนี้มีจำนวน 2,990 คน