คัดลอก URL แล้ว
กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แจงผลดำเนินงาน ปี 66

กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แจงผลดำเนินงาน ปี 66

วันนี้ (3 ต.ค.66) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในรอบ 1 ปี ตามปีงบประมาณ (ต.ค.2565-ก.ย.2566) ว่า กองทุนน้ำมันฯ ได้ดำเนินการตามบทบาทในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานในช่วงวิกฤตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง

โดยช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.-ธ.ค. 2565) สถานการณ์ราคาน้ำมันเริ่มผ่อนคลาย ฐานะของ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เคยติดลบสูงสุดถึง 130,000 ล้านบาท ก็ทยอยลดลง รัฐบาลมีมาตรการนำกลไกลดภาษีสรรพสามิตดีเซลเข้ามาช่วยพยุงราคาน้ำมัน และกองทุนทยอยลดการอุดหนุนน้ำมันดีเซล โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับลดราคาขายปลีกดีเซลไปแล้วรวม 7 ครั้ง จากราคา 35 บาทลิตร มาเป็น 32 บาท/ลิตร

จนปัจจุบันราคาลดลงมาอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นผลมาจากมติคณะวัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 ที่ให้ตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.-31 ธ.ค. 2566 โดยเบื้องต้นใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตลง 2.50 บาท/ลิตร และใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาราคาขายปลีก

นอกจากนี้ การออกพระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทวงการคลัง ค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ได้มีส่วนช่วยทำให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ ปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ โดยสถานะการกู้ยืมเงินของ สกนช. ได้ทยอยกู้ยืมเงินโดยสอดคล้องกับแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี 2566 โดยลงนามในสัญญากู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินรวม 105,333 ล้านบาท ปัจจุบัน สกนช. เบิกเงินกู้ยืมแล้วจำนวน 55,000 ล้านบาท และมีวงเงินกู้ยืมที่เบิกได้อีก 50,333 ล้านบาท

ส่วนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2566 ได้ปรับขึ้นราคาจาก 408 บาท/ถัง 15 กก.เป็น 423 บาท/ถัง 15 กก.โดยมีผลวันที่ 1 มี.ค. 2566 โดยให้กองทุนน้ำมันฯ เป็นกลไกในการรักษา เสถียรภาพราคา

ในฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ ณ วันที่ 1 ต.ค.2566 ติดลบ 65,732 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 20,806 ล้านบาท บัญชีก๊าช LPG ติดลบ 44,926 ล้านบาท

ทั้งนี้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Tansparency Assessment : ITA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 93.39 จาก 100 คะแนน อยู่อันดับที่ 4 ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงาน จาก 9 หน่วยงาน และคะแนนเฉลี่ยปีนี้จัดอยู่ในอันดับที่ 11 ของหน่วยงานสังกัดองค์การมหาชนจาก 59 หน่วยงาน โดยเป็นอันดับที่ดีขึ้นจากปีงบประมาณ 2565 ซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ดี

แผนการดำเนินงานปี 2567

ส่วนทิศทางการดำเนินงานปี 2567 คาดว่าประมาณการราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกจะอยู่ที่ 115-130เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาเชื้อเพลิงยังคงเผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลัก คือ การปรับลดอัตราการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและโอเปกพลัส ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงสูง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ จะยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการบริหารจัดการเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้เหมาะสมโดยเฉพาะน้ำมันดีเซล และก๊าซ LPG ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญมีผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และคาดว่าจะสามารถนำวงเงินกู้ยืมที่ยังเหลืออีก 50,333 ล้านบาท มาช่วยรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันในประเทศได้ตามวัตถุประสงค์ที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกำหนดไว้

นอกจากนี้ สกนช. จะทบทวนแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 5 ปี (พ.ศ.2568-2572) เพื่อปรับปรุงยุทธศาสตร์การรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงว่า หลักเกณฑ์ระดับราคาที่เหมาะสมของเชื้อเพลิงควรอยู่ที่เท่าใดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนยุทธศาสตร์การลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งได้ขยายระยะเวลาดำเนินการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไปครั้งแรก 2 ปีจนถึงวันที่ 24 กันยายน 2567 นั้น จะต้องพิจารณาทิศทางของราคาเชื้อเพลิงชีวภาพที่นำมาเป็นส่วนผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงอีกครั้งว่าจะเป็นเช่นไร อย่างไรก็ดีตามพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ยังมีระยะเวลาอีกช่วงที่สามารถต่ออายุไปถึงปี 2569


ข่าวที่เกี่ยวข้อง