วันนี้ (20 ก.ย. 66) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวชี้แจงกรณีการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ ว่าการดูงานที่สิงคโปร์เป็นหนึ่งในแผนงานที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ของคณะกรรมการขับเคลื่อนสภาสมรรถนะสูงและโปร่งใส
โดยระบุว่า จากการพิจารณาในประเด็นการทำงานต่าง ๆ พบว่าการดูงานในประเทศที่ไกลเกินไป ทั้งจะเป็นการไปดูในประเทศทวีปยุโรป หรือประเทศในทวีปอเมริกานั้นไม่มีความจำเป็น เราควรจะเริ่มต้นศึกษาจากประเทศที่เป็นพันธมิตรในระดับอาเซียน และประเทศที่มี Best practicing ในพื้นที่ที่เราต้องการ จึงได้ประเทศสิงคโปร์
ในคำถามแรกเรื่องงบประมาณที่ตั้งไว้ นายปดิพัทธ์ ยืนยันว่าเป็นงบประมาณที่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง เป็นค่าใช้จ่ายของรองประธานสภา คนที่ 1 ซึ่งหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าสูงเกินไปหรือไม่ ข้อเท็จจริงคือเราตั้งในช่วงที่ยังไม่มีการจองจริง ยังไม่ได้หาโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน ทำให้ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ประจำโครงการ จึงตั้งตามสิทธิที่อยู่ในระเบียบ
ซึ่งค่าใช้จ่ายจริงก็สามารถเปิดเผยได้ในวันนี้ ตอนนี้มีความชัดเจนแล้วคือใช้จ่ายตามสิทธิ์ 52,000 บาท และจองจริงได้ 28,000 บาท ส่วนที่เหลือจะส่งคืนคลังทั้งหมด โรงแรมที่ตามสิทธิ์สามารถเบิกได้ 12,500 บาท แต่จองจริง 9,500 บาท เราพยายามประหยัดให้ได้มากที่สุด แต่ในแง่ของความประหยัด ตนก็ยังอยู่ในสถานะ ทูตของสภาผู้แทนราษฎร การเยี่ยมคารวะ สร้างความสัมพันธ์ และเลี้ยงรับรองบุคคลที่จะมาเจอกันก็ต้องรับรองด้วย ต้องให้เกียรติประเทศไทยด้วย และจะมีการเปิดเผยแบบละเอียดในช่วงเดินทางกลับ
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ในประเด็นที่สอง บุคลากรที่ไปดูงานประกอบไปด้วย 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นกรรมการ ซึ่งมีตน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และนายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ตนตั้งใจจะให้ไปดูเรื่องระบบสารสนเทศ ข้อมูลโปร่งใส เราจะได้มีโอกาสไปชมเทคโนโลยีของรัฐบาลสิงคโปร์ ซึ่งงานด้านเทคนิคแบบนี้ต้องได้คนที่เหมาะสมกับงานเท่านั้น
ส่วนที่สามารถเอาคณะทำงานคนนอกไปด้วยได้ จะมีการควบคุมอย่างไร นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ต้นมีเพียงคนเดียวคือนายไกรก้อง ไวทยาการ ซึ่งเป็นอดีตคณะกรรมาธิการกิจการสภา ซึ่งเป็นการใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับสภา
ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล