คณะนักวิจัยของออสเตรเลียพบว่าสาเหตุการตายของโคอาลาป่ามากกว่าครึ่งหนึ่งในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์เกิดจากการถูกรถชน ซึ่งถือเป็นสาเหตุการตายใหญ่สุดของประชากรโคอาลาที่กำลังมีจำนวนลดน้อยลง
วันศุกร์ (15 ก.ย.) แถลงการณ์จากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย ระบุว่าทีมวิจัยจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมตั้งแต่ปี 1997 จาก 15 พื้นที่ที่ติดตามบันทึกของโรงพยาบาล และพบว่าระหว่างปี 2009-2014 จำนวนโคอาลาที่ตายจากรถชนอยู่ที่ 1,431 ตัว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 52 ของรายงานสาเหตุการตายทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ผลการศึกษาซึ่งเผยแพร่ผ่านวารสารไซแอนซ์ รีพอร์ตส์ (Scientific Reports) เผยว่าโคอาลา 943 ตัว ตายด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับหนองในเทียม และ 395 ตัว ตายจากการถูกสุนัขทำร้าย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 34 และร้อยละ 14 ของจำนวนการตายทั้งหมด ตามลำดับ
ยอร์ก เฮนนิง ศาสตราจารย์คณะสัตวแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่าการถูกรถชน สุนัขทำร้าย และเจ็บป่วยจากหนองในเทียม กำลังทำร้ายและคร่าชีวิตโคอาลาจำนวนมากทางตะวันออกเฉียงใต้ของควีนส์แลนด์ พร้อมชี้ว่าจำนวนการตายเหล่านี้เป็นเพียงกรณีที่มีการรายงานเท่านั้น ตัวเลขที่แท้จริงจึงสูงกว่านี้อย่างมีนัยสำคัญ
เฮนนิงแนะนำหน่วยงานทางการติดตั้งป้ายริมถนนเพิ่มเติมเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ลดความเร็วในแหล่งอาศัยและพื้นที่หากินของโคอาลา สร้างสะพานลอยและทางลอดเพื่อการเคลื่อนไหวที่ปลอดภัยของโคอาลา และดำเนินโครงการเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่เจ้าของสุนัขเพื่อลดจำนวนการตายของโคอาลา
ที่มา – ซินหัว
