คัดลอก URL แล้ว
‘แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา’ จากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สู่ รัฐบาลเศรษฐา

‘แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา’ จากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สู่ รัฐบาลเศรษฐา

วันนี้ (14 ก.ย.66) ที่ กระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานการประชุมมอบนโยบายการศึกษา และแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” กล่าวในที่ประชุมว่า ตนมีนโยบายลดภาระนักเรียน และผู้ปกครอง โดยให้เด็กเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เรียนฟรี มีงานทำ และยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (1 นักเรียน 1 Tablet)

โดยนโยบายอุปกรณ์การเรียน ต้องยอมรับว่าผู้มีโอกาสก็จะมีสื่อการเรียนการสอน แต่ผู้ด้อยโอกาส อาจจะไม่มี ดังนั้นเพื่อความเท่าเทียมเสมอภาคทางการศึกษาเราต้องจัดการแท็บเล็ต ส่วนการดำเนินการ ต้องมาศึกษาและดูงบประมาณในการดำเนินการ โดยดูว่าสามารถชื้อได้หรือไม่ ถ้าซื้อไม่ได้อาจจะเช่า หรือ ยืม

อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวในรัฐบาลเศรษฐา ถูกพูดถึงอย่างมากเนื่องจากเมื่อครั้งในอดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยมีการนำร่องโครงการในลักษณะคล้ายกันนี้ คือ โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย “One Tablet per Child : OTPC”

โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย [รัฐบาลยิ่งลักษณ์]

ที่มาของโครงการนี้เป็น 1 ในนโยบายหาเสียงด้านการศึกษาของพรรคเพื่อไทย ในการสู้ศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2554 กระทั่งพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 24 สิงหาคม 2554

โดยมีการกล่าวถึงนโยบายที่จะสร้างพื้นฐานในการเรียนออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน และการจัดทําระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายตามมาตรฐานการให้บริการในสถานศึกษาที่กําหนดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายใต้โครงการ “1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน (One Tablet PC per Child)”

ต่อมา ในปี 2555 นโยบาย OTPC ถูกผลักดันสำเร็จ โดยมีการจัดสรรคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในโครงการนำร่อง และในวันที่ 7 มิถุนายน 2555 ในวันพิธีเปิดงานโครงการ “One Tablet PC Per Child”

งบประมาณที่ใช้กับโครงการฯ

ในปีงบประมาณ 2555 นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้จัดซื้อแท็บเล็ตจาก บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก เดเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในราคาเครื่องละ 2,674 บาท รวมค่าขนส่ง แจกให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนทุกสังกัดจำนวน 856,886 เครื่อง วงเงินประมาณ 2 พันล้านบาท

และในปีงบประมาณ 2556 จัดซื้อจัดจ้างแท็บเล็ตวงเงินจำนวนกว่า 4 พันล้านบาท รวมกับงบประมาณปีแรกเท่ากับใช้งบประมาณไปมากกว่า 6 พันล้านบาท โดยแจกเป็นโซน คือ

กระทั่งในปี 2557 โครงการดังกล่าวถูกยกเลิกโดย คสช. เนื่องจากเกิดปัญหาในการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งเรื่องการประมูล และตัวบริษัทที่ชนะการประมูลแต่ไม่สามารถจัดส่งอุปกรณ์ได้ตามกำหนด

ปัญหาที่พบ

อย่างไรก็ตามหลังมีการดำเนินการผลักดันนโยบายดังกล่าว มีหลายหน่วยงานได้สำรวจติดตามผลของการใช้แท็บเล็ตของนักเรียน พบว่า การใช้แท็บเล็ตของนักเรียนนั้นไม่คุ้มค่า เนื่องจากใน 1 วันการเรียนการสอน นักเรียนจะใช้แท็บเล้ตเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งเครื่องที่นำเข้ามานั้นเป็นเครื่องที่มีราคาถูก ทำให้ได้คุณภาพที่ต่ำมีอายุการใช้งานที่สั้นเพียง 3 ปีเท่านั้น ประกอบกับหากเกิดกรณีที่ต้องถูกก็ยิ่งไม่คุ้มเข้าไปอีก รวมไปถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เมื่อใช้งานไปได้ไม่กี่ปีก็เสื่อมคุณภาพลง อีกทั้งปัญหาเรื่องของบุคลากรครูที่ต้องเข้ามาดูแล และมีความรู้ในอุปกรณ์ก็มีไม่เพียงพอ ทำให้เสียงส่วนใหญ่มองว่านโยบายดังกล่าวไม่คุ้มค่า


ข่าวที่เกี่ยวข้อง