คัดลอก URL แล้ว
“บิ๊กโจ๊ก” บุกกัมพูชา ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกกัมพูชา ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกกัมพูชา ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้นเหตุพ่อฆ่ายกครัวหนีหนี้

9 ก.ย.66  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ร่วมกับ พล.ต.ท.เสียง เทีย ริต รองผู้อำนวยการ กองบัญชาการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติกัมพูชา พลตำรวจจัตวา ดารา สุเภีย รองผู้อำนวยการ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติกัมพูชา พ.ต.อ.ฮุง วี แรก ผู้บังคับการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติกัมพูชา และ พ.ต.ท.ชิ โคโบตร้า เลขาธิการผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เดินทางไปติดตามจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ เป็นต้นเหตุส่วนหนึ่ง ที่นายสาณิช ฆ่าภรรยาและลูก 2คนเสีย ส่วนตัวเองฆ่าตัวตายแต่รอดบาดเจ็บสาหัส  โดยมีสาเหตุเกิดจากความเครียดจากปัญหาหนี้สินค้ำประกันการซื้อรถให้เพื่อนบ้านเป็นเงิน 8 แสนบาท จนถูกฟ้องและกรมบังคับคดีจะยึดบ้าน นอกจากนี้ภรรยายังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นแอพเงินกู้และสูญเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาท   ผลการจับกุมผู้ต้องหา  4 คน   คือ

1.นายสุพล วงเวียน อายุ 21 ปี ทำหน้าที่ หัวหน้าคนไทยควบคุมพนักงานคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชา

และจัดหาบัญชีธนาคารของผู้อื่น (บัญชีม้า) 

2.น.ส.นิศารัตน์ สุขเกษม อายุ 22 ปี ทำหน้าที่ พนักงานในคอลเซ็นเตอร์

 3.น.ส.กนกพร ไกรสุข อายุ 19 ปี ทำหน้าที่ พนักงานในคอลเซ็นเตอร์

 4.น.ส.กรกนก สิงทิศ อายุ 19 ปี ทำหน้าที่ พนักงานในคอลเซ็นเตอร์

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” จากการจับกุมผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ, บัตร ATM, สมุดบัญชีธนาคาร และอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 100 รายการ และเงินสดจำนวนกว่า 240,000 บาท

โดยคดีนี้ได้ออกหมายผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 30 หมายจับ สามารถจับกุมได้ 16 คน แบ่งหน้าที่กันดังนี้

กลุ่มเจ้าของบัญชีม้ารับโอนเงิน จำนวน 16 คน จับกุมได้ 9 คน หลบหนี 7 คน

กลุ่มผู้ถอนเงิน จำนวน 4 คน จับกุมได้ 2 คน หลบหนี 2 คน

กลุ่มจัดหาบัญชีม้า จำนวน 2 คน จับกุมได้ 2 คน

กลุ่มพนักงานในคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 6 คน หลบหนี 6 คน (อยู่ในกัมพูชา)

กลุ่มชาวจีน ผู้ควบคุมพนักงานในคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 2 คน หลบหนี 2 คน (อยู่ในกัมพูชา)

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่าการสืบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งขบวนการที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่บัญชีม้าจนถึงหัวหน้าขบวนการชาวจีนมากถึง 30 คนโดยจับกุมแล้ว 12 คน และสืบทราบว่ากลุ่มเหล่านี้ตั้งออฟฟิซอยู่ที่ปอยเปต กัมพูชา จึงได้ประสานงานกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา เพื่อทลายจุดคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว โดยในวันนี้ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้เพิ่มเติมอีก 4 คน ซึ่งทำหน้าที่โทรหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงิน โดยจะนำตัวกลับไทยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากนี้จะได้ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ทั้งหมด เพื่อนำกลับมาดำเนินคดีที่ไทยจนถึงที่สุดต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง