กลุ่มนายทหารระดับสูงในประเทศกาบอง ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ ได้ออกแถลงการผ่านทีวีของประเทศกาบอง ระบุว่า ได้ทำการยึดอำนาจ เพื่อล้มการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า “การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นไม่มีความน่าเชื่อถือ”
ในช่วงเช้าตรู่ของวันพุธนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โทรทัศน์ กาบอง 24 ของประเทศกาบองได้เผยแพร่ภาพของกลุ่มนายทหารระดับสูงออกมายืนแถลงการณ์โดยกล่าวว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยและป้องกันประเทศได้ทำการยึดอำนาจและยกเลิกการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศปิดพรมแดนของประเทศกาบอง
สำหรับในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีประชาชนราว 850,000 คนได้ออกไปร่วมลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภา ในรูปแบบการเลือกตั้งด้วยใบลงคะแนนเสียงแบบใบเดียว ซึ่งเป็นรูปแบบการเลือกตั้งแบบใหม่ ที่จัดทำขึ้นตามรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่มีการประกาศใช้เมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา
การประกาศยึดอำนาจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาไม่นาน ภายหลังจากที่ ประธานาธิบดีอาลี บองโก ออนดิมบา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดย ประธานาธิบดี บองโก ได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 64% ในขณะที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้รับคะแนนเสียงราว 30% เท่านั้น
ด้านฝ่ายค้านของประเทศกาบอง ระบุว่า การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นการโกงการเลือกตั้งที่ดำเนินการโดย บองโกและกลุ่มผู้สนับสนุน ที่ครอบงำประเทศมาอย่างยาวนาน ซึ่งพรรคประชาธิบไตยกางบอง หรือ PDG นั้นก่อตั้งโดย นายโอมาร์ บองโก ผู้นำประเทศกาบองในช่วงปี 1967 – 2009 ก่อนที่จะเสียชีวิต และส่งไม้ต่อให้กับลูกชาย คือ อาลี บองโก
ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นภายหลังจากการเลือกตั้งนั้น นำไปสู่การตัดอินเตอร์เน็ต ประกาศเคอร์ฟิว ข้ออ้างถึงปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่เป็นกลาง และไม่ยุติธรรม จนนำมาสู่การยึดอำนาจในครั้งนี้
ในขณะที่หลายชาติได้แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งประเทศในทวีปแอฟริกาที่มีการทำรัฐประหารและยึดอำนาจ ตามรอยประเทศไนเจอร์ที่อยู่ในทวีปเดียวกัน ซึ่งเพิ่งจะมีการยึดอำนาจไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
