วันนี้ ( 24 ส.ค. 2566) องค์กรการบินพลเรือนของรัสเซียได้รายงานเหตุเครื่องบินตก ในระหว่างการเดินทางจากกรุงมอสโคเพื่อไปยังนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กของรัสเซีย ซึ่งในรายงานแรกนั้นระบุว่า เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวลำนี้ ประสบเหตุขัดข้องและตกลงในเขตทเวอร์ (Tver) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก
ซึ่งในเวลาต่อมา สื่อหลายสำนักของรัสเซียได้รายงานระบุว่า เครื่องบินเจ็ตลำดังกล่าวเป็น เครื่องบิน Embraer Legacy 600 หมายเลขทะเบียนรัสเซีย RA-02795 ซึ่งบนเครื่องบินลำดังกล่าว มีลูกเรือ 3 คน และผู้โดยสารอีก 7 คน รวมทั้งหมด 10 คน และหนึ่งในแถลงการณ์ได้ระบุว่า ผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำนี้ เสียชีวิตทั้งหมด โดย หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ เยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกองกำลังทหารรับจ้างที่รู้จักในชื่อกลุ่มแวกเนอร์
นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ ดมิตทรี อุทกิน อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารและปฏิบัติการพิเศษของรัสเซียและสมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่มวากเนอร์ด้วย ซึ่งอุทกินถือว่า เป็น “มือขวา” ของพริโกซิน และเป็นผู้ที่เคยเข้าร่วมประชุมครั้งสำคัญ ๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย
เทเลแกรมกลุ่ม Grey Zone ของกลุ่มวากเนอร์ ได้รายงานระบุว่า เยฟเกนี พริโกซินได้เสียชีวิตแล้วในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในเวลาต่อมามีรายงานของสื่อในรัสเซียได้รายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 8 ร่าง และหนึ่งในนั้นเป็นที่ยืนยันแล้วว่า เป็นร่างของพริโกซิน
…
เกิดอะไรขึ้นในเหตุการณ์นี้
ในเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาในประเทศรัสเซีย เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Embraer Legacy 600 ประสบเหตุตกลงมาในระหว่างการเดินทาง โดยรายงานจาก FlightRadar24 พบว่า เครื่องบินลำนี้ สัญญาณขาดหายไปจากเรดาห์ในเวลาประมาณ 15.11 น. ก่อนมีรายงานตกลงในหมู่บ้าน Kuzhenkino เขตทเวอร์ (Tver) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เท่าที่มีข้อมูลที่รายงานออกมาอย่างไม่เป็นทางการบ่งชี้ให้เห็นว่า เครื่องบินประสบเหตุร้ายแรงอย่างกระทันหัน ส่งผลให้เครื่องตกลงอย่างรวดเร็ว ในลักษณะที่เรียกได้ว่า แทบจะทิ้งดิ่งลงสู่พื้น ก่อนที่จะกระแทกพื้นและมีไฟลุกไหม้ไปทั่วบริเวณ
ทางด้านของ ไฟแนนเชียลไทมส์ ได้รายงานอ้างอิงจากแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนว่า เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้ยิงเครื่องบินลำที่ พริโกซินโดยสารมาด้วยลำนี้ แต่ก็ยังคงไม่มีข้อมูลยืนยันที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามทางการของรัสเซียได้กล่าวว่า จะเดินหน้าสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นและทำให้เครื่องบินตกในหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการที่เครื่องขัดข้องอย่างรายแรง หรือมีการระเบิดขนาดเล็กบนเครื่อง จนถึงการถูกโจมตีจากระบบป้องกันภัยทางอากาศ
…
ความคลุมเครือของเหตุการณ์ในครั้งนี้
บางส่วนได้ตั้งข้อสังเกตุถึงความคลุมเครือของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า พริโกซินนั้นเสียชีวิตจริงหรือไม่ หรือมีเพียงรายชื่อที่ระบุว่า อยู่บนเครื่องลำนี้เท่านั้น เนื่องจากเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวอีกลำหนึ่งของพริโกซินยังคงจอดอยู่
ในขณะที่สำนักงานการบินของรัสเซีย ได้ออกมารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียง 1 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นเท่านั้น ซึ่งถือว่า เป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ “รวดเร็วผิดปรกติ”
ในกรณีที่เป็นการ “โจมตี” ด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย ก็ยังคงมีคำถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลมาจากการที่ก่อกบฎของพริโกซินก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งในเทเลแกรมกลุ่ม Grey Zone ก็ยังคงไม่ได้ยืนยันในเรื่องดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็มีคลิปของพริโกซินที่อ้างว่า เป็นการถ่ายในภูมิภาคซาเอล ในแอฟริกาตะวันตก ท่ามกลางความตึงเครียดในไนเจอร์ และชาติในกลุ่ม ECOWAS และการเดินทางกลับมายังรัสเซียในครั้งนี้ ก็มีความเชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มกองกำลังรับจ้างวากเนอร์ ในพื้นที่แอฟริกาตะวันตก
ทางด้านของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีปูตินอาจจะมีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ครั้งนี้ และไม่แปลกใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
…
อนาคตของวากเนอร์
การเสียชีวิตของพริโกซินยังคงเกิดคำถามขึ้นอีกหลายประเด็น โดยหนึ่งในนั้นคือ อนาคตของวากเนอร์ จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งหลายฝ่ายก็ได้จับตาไปที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ปูตินจะกลับมาควบคุมกลุ่มวากเนอร์อีกหรือไม่ หรือจะส่งใครมาเป็นผู้นำกลุ่มวากเนอร์ต่อไป
ในขณะนี้ กองกำลังวากเนอร์ ยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่ขัดแย้งหลายจุดไม่ว่าจะเป็น ในเบลารุส ที่กลายเป็นเป็นที่ตั้งหลักของกองกำลังวากเนอร์และกลายเป็นแรงกดดันต่อโปแลนด์และยูเครน, กองกำลังวากเนอร์บางส่วนยังคงอยู่ในประเทศมาลีที่ประกาศตัวยืนเคียงข้างรัฐบาลทหารในประเทศไนเจอร์ เพื่อเตรียมรับมือกับชาติในกลุ่ม ECOWAS ที่ได้กำหนด “วันดีเดย์” ในการบุกไนเจอร์แล้ว
ดังนั้น การเสียชีวิตของพริโกซินจึงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะกลายเป็นสาเหตุของความวุ่นวายและสงครามในหลายจุดทั่วโลกอีกครั้ง ซึ่งการสูญเสียทั้งพริโกซิน และอุทกิน ผู้เป็นมือขวาของผู้นำวากเนอร์ จะส่งผลต่อโครงสร้างของวากเนอร์ค่อนข้างมาก
ในเทเลแกรมของกลุ่มวากเนอร์บางกลุ่มมีความเคลื่อนไหว ส่งสัญญาณจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพริโกซิน แต่ต้องไม่ลืมว่า นักรบของวากเนอร์ส่วนใหญ่คือ ทหารรับจ้าง หลายฝ่ายจึงมองว่า สิ่งสำคัญของการเดินหน้าต่อไปนั้น ย่อมอยู่ที่ว่า ผู้นำคนใหม่ พร้อมจ่ายให้กับทหารเหล่านี้มากน้อยเพียงใด
…
ท่าทีของสาธารณชน
ภายหลังจากที่มีรายงานข่าวการเสียชีวิตของพริโกซิน ผู้นำวากเนอร์ มีบรรดากองกำลังวากเนอร์ รวมถึงประชาชนบางส่วนออกมาวางดอกไม้บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานงานของวากเนอร์
ซึ่งต้องไม่ลืมว่า เมื่อครั้งที่พริโกซินได้เคลื่อนพลมุ่งหน้ามอสโก เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ประชาชนชาวรัสเซียจำนวนไม่น้อย ออกมาเคลื่อนไหว แสดงความยินดีกับพริโกซินที่เคลื่อนขบวนออกมาในครั้งนั้น