คัดลอก URL แล้ว
“วิโรจน์” ไม่เสียใจ หลัง “หมอชลน่าน” พาดพิง คิดผิดที่เคยร่วมจับมือก้าวไกล

“วิโรจน์” ไม่เสียใจ หลัง “หมอชลน่าน” พาดพิง คิดผิดที่เคยร่วมจับมือก้าวไกล

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวหลังจากที่ประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า ส่วนตัวในฐานะพรรคก้าวไกลก็จะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด แล้วมองว่าเป็นเรื่องที่ดีอีกแบบ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีพรรคการเมืองใดให้ความสำคัญเกี่ยวกับงานนิติบัญญัติ เนื่องจากตนเองมองว่ากลไกของรัฐสภามีความสำคัญเกี่ยวกับการออกแบบหรือแก้ไขกฎหมาย โดย สส. จะมุ่งเน้นเห็นความสำคัญของประชาชนเป็นหลัก คือ 1.ผลิตกฎหมาย 2.สะท้อนเสียงประชาชน 3. ติดตามตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล ซึ่งพร้อมจะทำหน้าที่ทั้ง 3 อย่าง

ส่วนการทำงานของฝ่ายค้านในแบบฉบับเชิงรุกของพรรคก้าวไกล เปรียบเหมือนกการเล่นฟุตบอลที่จะต้องมีการเสริมตัว ซึ่งพรรคก้าวไกลเองก็มีการเสริมตัว 14 ล้านคน ซึ่งเป็นส่วนของภาคประชาชน ในฐานะพรรคมวลชนที่มีประชาชนเป็นเจ้าของ เน้นการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย ซึ่งถือเป็นบ่อเกิดที่ทำให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์ของนักการเมือง บางครั้งการกระทำถูกต้องแต่กฎหมายกลับแปลเปลี่ยนให้เป็นผู้กระทำผิด เพราะเป็นกฎหมายที่ล้าสมัย

สำหรับการทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ในการเป็นฝ่ายค้านนั้น ส่วนตัวมองว่าก็ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ มองผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องทำร่วมกัน

ส่วนกรณีที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้กล่าวปิดก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมสภา ว่า ตัดสินใจผิดพลาดที่มารวมกับพรรคก้าวไกลตั้งแต่แรกนั้น มองว่าหากเป็นการพาดพิงถึงพรรคก้าวไกล ส่วนตัวคงใจกว้าง ไม่คิดมาก เพราะมีวุฒิภาวะ และความเป็นผู้ใหญ่พอ แต่ในส่วนที่ตนรู้สึกเสียใจคือเรื่องของนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นร่างของประชาชนที่ตอนแรกระบุว่าจะให้เป็นร่างของประชาชน แต่สุดท้ายระบุว่าเป็นเพียงการหาเสียงเท่านั้น มองว่า รัฐธรรมนูญอนาคตก็จะต้องมาจากประชาชน ที่เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และรัฐไทยต้องเป็นรัฐเดียวแบ่งแยกไม่ได้

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าประชาชนไม่ได้รู้สึกผิดหวัง เพราะเราพูดอะไรเราก็พร้อมทำตามที่พูด ไม่ใช่เลือกไปแล้วพูดอย่างทำอย่าง ถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะทำให้ประชาชนผิดหวังได้

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับครั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า หากจะพูดว่าไม่มีนัยยะทางการเมืองอะไรเลย ก็ยังพูดไม่ได้ แต่มองว่าสิ่งที่คุณทักษิณถูกกระทำเมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นการไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งคุณทักษิณเองก็ควรที่จะได้รับความยุติธรรม แต่ในส่วนความยุติธรรมที่คุณทักษิณได้รับนั้น ผู้ลี้ภัยหรือผู้ที่โดนกระทำเหมือนคุณทักษิณคนอื่นๆ ก็จะต้องได้รับเช่นเดียวกัน แต่หากความยุติธรรมได้รับเพียงแค่บางคน ตนมองว่ามันไม่ใช่ความยุติธรรมแต่มันเป็นสิทธิพิเศษ หวังว่าสิ่งที่คุณทักษิณได้รับครั้งนี้ ในส่วนของผู้ลี้ภัยรายอื่น ก็ย่อมได้รับความยุติธรรม เช่นเดียวกับนายทักษิณ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง