การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศกัมพูชาในวันนี้ (23 ก.ค.) ได้มีการเปิดคูหาเลือกตั้งให้ประชาชนได้ไปลงคะแนนเสียงกันแล้ว โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.15 น. ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน และภริยาได้เดินทางไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อย ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1697 ในเมืองตาเขมา จังหวัดกันดาล ประเทศกัมพูชา โดยมีผู้สังเกตการณ์จากชาติต่าง ๆ ได้เดินทางไปร่วมสังเกตการเลือกตั้งในกัมพูชาในครั้งนี้ด้วย
การเลือกตั้งในครั้งนี้ มีผู้สังเกตการณ์จากประเทศต่าง ๆ มากกว่า 300 คน ที่เดินทางมายังกัมพูชา เพื่อติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้ นับเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่กัมพูชามีการเลือกตั้งมา
มั่นใจ แลนด์สไลด์
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาชนกัมพูชา หรือ CPP ของสมเด็จฮุน เซน ได้คาดหมายว่า ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น พรรคประชาชนกัมพูชาจะได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นแบบแลนด์สไลด์
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ มีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 9.7 ล้านคนจาก 16 ล้านคนที่มีสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองร่วมลงแข่งขันจำนวนทั้งหมด 18 พรรคการเมือง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของความคลุมเครือยังคงมีอยู่ เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่า มีหลายพรรคที่ลงแข่งขันในครั้งนี้ เป็นเพียง “นอมินี” ของสมเด็จฮุน เซน ให้การเลือกตั้งมีสีสันเท่านั้น เนื่องจากแนวนโยบายต่าง ๆ ที่ไม่ชัดเจน ไม่ทรัพยากรมากพอที่จะแข่งขันกับพรรครัฐบาลได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ พรรคแสงเทียนที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลักเพียงพรรคเดียวของกัมพูชาก็ไม่สามารถลงแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า “เอกสารไม่ครบถ้วน” ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่อนุญาตให้พรรคแสงเทียนลงสนามเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งในการเลือกตั้งเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมานั้น พรรคประชาชนกัมพูชา ชนะการเลือกตั้งได้ที่นั่งในสภาทั้งหมด 125 ที่นั่ง โดยไม่มีฝ่ายค้าน ท่ามกลางข้อครหาถึงการยุบพรรคฝ่ายค้าน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเพียงไม่กี่เดือน ส่งผลให้แกนนำฝ่ายค้านต้องลี้ภัยออกจากกัมพูชา บางส่วนถูกจำคุกและตัดสิทธิ์ทางการเมือง
เลือกตั้งครั้งสำคัญของฮุน เซน
การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองจากหลายฝ่ายเนื่องจากท่าทีของสมเด็จฮุน เซนที่จะส่งต่ออำนาจให้กับ ฮุน มาเนต บุตรชายวัย 45 ปี เพื่อสืบทอดอำนาจต่อ ภายหลังจากที่สมเด็จฮุน เซนครองอำนาจมากกว่า 40 ปี
โดยสมเด็จฮุน เซน ได้ให้สัมภาษณ์ กับสื่อฯ จีน ระบุว่า ฮุนมาเนต จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ภายในหนึ่งเดือนหลังการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ น่าจะเป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายที่สมเด็จฮุน เซนจะลงสนามการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ภาพของฮุน มาเนต ที่ปรากฎตัวตามการหาเสียงในสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบ่อยครั้งมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่ค่อยปรากฎตัว หรือให้สัมภาษณ์มากนัก