นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เผยหลังจากมิติโหวตนายกรัฐมนตรี ที่ผลสรุปนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่ได้เป็นนายกในการลงมติวันนี้ เผยว่าตนเองก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับประชาชนทักคนที่ติดตามข่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคก้าวไกล จะสามารถเดินหน้าต่อในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่าให้เรียกว่า 8 พรรคร่วมจะดีกว่า คงให้ทีมงานของทั้ง 8 พรรคหารือกันต่อไป
ส่วนที่ ส.ว. โหวตได้ไม่ตามเป้า คงต้องวิเคราะห์กันดูตอบตอนนี้ทันทีไม่ได้ เบื้องต้นในฐานะสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้น มีแผนรองรับ ไม่ได้กังวลอะไร มองว่าบ้านเมืองหลังรัฐประหารก็ยากแบบนี้แหละ
นักข่าวถามกังวลไหมว่ารอบที่ 2 จะมีมติคลิายรอบแรก “เราไม่ได้กังวลครับ อย่างที่ผมบอก ผมยักไหล่เสมอ” ตนเองเคารพในหลักการรัฐสภา เคารพเสียงส่วนใหญ่ที่ผ่านการเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชน ส่วนผลที่ออกมา ตนมองว่าคนตอบคำถามต้องเป็นคนที่บิดเบือนเสียงของประชาชนมากกว่า
เมื่อถามว่ามองว่าการแก้มาตรา112 เป็นกำแพงของการจัดตั้งรัฐบาลไหม ซึ่งนายวิโรจน์บอกว่ามาตรา112 ทางพรรคบัญญัติอย่างชัดแจ้ง พิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรใน 300 นโยบาย เราชัดเจน ทุกเวทีเลือกตั้งก็ชี้แจงต่อประชาชนตรงไปตรงมาเสมอ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะมาตรา112 ยังมีกฎหมายอื่นๆ ที่ทางพรรครักษาอุดมการณ์ที่ให้ไว้กับประชาชน พร้อมบอกว่า “อย่าซีเรียส ๆ ยักไหล่ดีกว่า”
ส่วนวันนี้มี ส.ว.ที่เคยแสดงจุดยืนว่าจะโหวตก้าวไกล แต่วันนี้หลายคนไม่มาแสดงตัวในองค์ประชุม เป็นเพราะถูกกดดันด้วยอำนาจอื่นไหม ส่วนนี้ควต้องไปถาม ส.ว. เองว่าทำไมเขาไม่มา ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าท่านไม่ได้มาด้วยตัวท่านเองก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้ามีเหตุที่ทำให้ท่านไม่มาก็ต้องถามว่าเหตุอะไร” นักข่าวถามอีก มีกล้วยไหมสำหรับรอบนี้ นายวิโรจน์บอกคงตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ และอยู่แต่ในห้องประชุม
การมาประชุมเป็นเรื่องสำนึกในหน้าที่มากกว่า การไม่มาไม่ได้ถูกหักเงินเดือน แต่ก็ได้ข่าวว่าคืนเงินเดือน แต่อย่างไรก็ต้องสำนึกในหน้าที่ ตอนนี้ตนเองสบาย ๆ ไม่ได้กังวล
