เกาะติดรายงานการประชุมรัฐสภาในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์ในวันนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่มีกระแสต่าง ๆ เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ สามารถเกาะติดสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดทั้งวันกับ Mono News ที่จะรายงานให้คุณทุกความเคลื่อนไหว สด ๆ ที่นี่
อัปเดต –
- 11.40 น. – นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุน นายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 30 ระบุว่า
“คุณวุฒิไม่ต้องพูดถึง การศึกษาไม่ต้องพูดถึง อายุเหมาะ ๆ ผมอายุ 40 ปีมาก่อน รู้ว่ามันเร่าร้อน”
โดยยังได้ขอให้สมาชิกสรัฐสภาร่วมมือกันให้ผ่านไปได้ โดยไม่พูดถึง รธน. ฉบับนี้ที่จะต้องแก้ไข ขอให้รอบนี้เป็นรอบสุดท้ายที่ ทั้งสองสภา ต้องมาร่วมกันโหวตนายกฯ - 11.30 น. – นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขึ้นอภิปราย โดยเปิดในประเด็นเรื่องของการแก้ไข ม.112 ระบุ บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องแก้ ม. 112
นอกจากนี้ยังคงกล่าวถึงประเด็นการพูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์การแบ่งแยกคนออกเป็นฝ่ายต่าง ๆ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ กับประเทศ โดยยังมีเรื่องปากท้องประชาชน ปัญหาอื่น ๆ อีกที่ต้องแก้ไข
นอกจากนี้ ยังได้เปิดกล่าวถึงประเด็นการถือหุ้นสื่อฯ ของนายพิธาด้วย - 11.20 น. – นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลขึ้นอภิปราย โดยย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอใด ของพรรคก้าวไกล สถาบันใด ๆ จะดำรงอยู่ได้ด้วยการยินยอมพร้อมใจของประชาชน และขอย้ำให้ทุกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
ได้ย้ำถึงการเลือกพรรคก้าวไกล หรือ นายพิธา เป็นนายกฯ ไม่ใช่การล้มล้างฯ และเป็นเรื่องอันตรายที่ต่างฝ่ายต่างดึงสถาบันฯ มาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข - นอกจากนี้ ขอให้ที่ประชุมลงมติให้นายพิธา เป็นนายกฯ ไม่ใช่เพราะรัก เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล แต่เพื่อคืนความปรกติให้รัฐสภาของไทย และเคารพต่อประชาชน
- 11.00 น. – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายชี้แจงในกรณีที่มีผู้อภิปรายพาดพิง โดยได้ตอบนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ว่า ม. 112 ไม่ได้อยู่ใน MOU ของ 8 พรรคร่วม และการแก้ไข กฎหมายเป็นหน้าที่ของสภาที่จะต้องมาถกเถียงกันตามระบอบประชาธิปไตย
ส่วนกรณีศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) มีประเทศ 123 ประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข พร้อมตอบนายประพันธ์ คูณมี โดยยืนยันว่า ยังมีคุณสมบัติสมบูรณ์ทุกประการและความชอบธรรม - 10.50 น. – นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา ได้ขึ้นอภิปราย โดยกล่าวถึงประเด็นคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่า เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ตาม รธน. ม. 98 (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
- 10.20 น. – นายชาดา ไทยเศรษฐ์ พรรคภูมิใจไทย ได้ขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก ในประเด็นของพรรคก้าวไกล และ นายพิธา ในปมการแก้ไข ม. 112
- 10.00 น. – นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ โดยมีส.ส. ได้แสดงตนรับรองจำนวน 302 คน
…
กำหนดการประชุมรัฐสภา
สำหรับในวันนี้ จะเริ่มเวลา 09.30 น. จะมีการเปิดประชุมรัฐสภาในวาระการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย หลังจากนั้นจะมีการเปิดให้ทั้งส.ส. และส.ว. ได้อภิปรายญัตติเป็นเวลา 6 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น
- การอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 4 ชั่วโมง
- การอภิปรายของวุฒิสภา จำนวน 2 ชั่วโมง
ก่อนที่ในเวลาประมาณ 16.00 น. จะมีการเปิดให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งในขณะนี้ รายชื่อที่จะมีการเสนอยังคงเป็นชื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพียงชื่อเดียวเท่านั้น โดยในการเสนอวิสัยทัศน์กำหนดเวลาให้ 1 ชั่วโมงด้วยกัน
หลังจากนั้นในเวลา 17.00 น. จะมีการเริ่มลงคะแนนเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบเป็นรายบุคคล ทั้ง 750 คน (ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน) โดยจะใช้วิธีการขานชื่อเรียงตามลำดับตัวอักษร
…
ขั้นตอนการเสนอชื่อ – โหวต พิธา เป็นนายกฯ
สำหรับขั้นตอนในการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของไทยนั้น จะให้มี ส.ส. เป็นผู้เสนอชื่อ ซึ่งล่าสุด มีรายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. จะเป็นผู้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ โดยจะให้มีส.ส. รับรองอย่างน้อย 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด คือ 50 คน
จากนั้น จะเปิดให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ได้แสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งอาจจะมีการอภิปรายซักถามในเรื่องต่าง ๆ ก่อนที่จะถึงเวลาการลงคะแนนในเวลาประมาณ 17.00 น.
สำหรับการลงมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบนั้น จะใช้วิธีการขานชื่อเรียงตามลำดับตัวอักษร ซึ่งผู้ที่จะได้เป็นนายกฯ จะต้องได้รับคะแนนโหวตมากกว่า 376 เสียงขึ้นไป แต่หากไม่ถึง ก็จะมีการเสนอรายชื่อและโหวตใหม่ ซึ่งในรัฐธรรมนูญไม่ได้มีการกำหนดจำนวนครั้งของการโหวต