กรณีที่โครงการก่อสร้างสะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถล่มลงมากีดขวางทางจราจรทับบ้านเรือนประชาชน รถยนต์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดช่วงเย็น วันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เวลา 09.00 น. นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกทม. และนายชัชชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อร่วมประเมินวางแผนการเคลื่อนย้ายโครงสร้างที่ถล่มร่วมกับเจ้าหน้าที่วิศวกร ผู้เกี่ยวข้อง
แผนรื้อถอนซากสะพานถล่ม
นายณรงค์กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเร่งรัดในตอนนี้ คือการเร่งรื้อโครงสร้างที่เกิดความเสียหาย ไปกระทบกับการจราจรและเกิดความเสี่ยงต่อประชาชนในพื้นที่ โดยล่าสุด ได้มีการวางแผนการรื้อย้ายโครงสร้างกับสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งอันดับแรกจะเร่งเคลียร์พื้นที่ในส่วนที่กีดขวางการจราจร เพื่อให้เปิดใช้งานได้เร็วที่สุด ส่วนที่เหลืออื่นๆ เป็นแผนการดำเนินการต่อจากนี้ ว่าจะมีการซ่อมแซมแก้ไขต่อไปอย่างไร ตอนนี้ได้มีการเตรียมเครื่องจักรเป็นรถเครนขนาด 200 ตัน และ 50 ตัน เพื่อจะมาช่วยในการยกพยุงตัวโครงสร้าง และตัดชิ้นส่วนที่เสียสภาพเพื่อทำการเคลื่อนย้ายออกไป
ซึ่งการที่ต้องตัด เพราะโครงสร้างมีขนาดใหญ่ ประกอบกันขึ้นมา ทำให้มีความยาวและน้ำหนักมาก ยากต่อการเคลื่อนย้าย ซึ่งในการแบ่งออกเป็นชิ้นนั้น จะใช้วิธีการถอดน็อตตามโครงสร้างที่ประกอบไว้ แต่หากส่วนไหนถอดไม่ได้หรือถอดยาก ก็จะใช้แก๊สเป่าให้ขาด ระหว่างการดำเนินการถอดแบ่งชิ้นส่วน ต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยกถ่วง และใช้เครนตัวเล็กพยุงไว้ให้ทำงานได้ปลอดภัย
คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันจะสามารถเคลียร์พื้นที่ส่วนที่กีดขวางการจราจรได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญคือเรื่องสภาพพื้นที่ที่มีจำกัด ทำให้การทำงานอาจไม่คล่องตัวเท่าที่ควร และต้องระมัดระวังในจุดที่อยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมัน โดยต้องมีการวัดแก๊สตลอดเวลา จากการประเมินคร่าวๆ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันจะสามารถเคลียร์พื้นที่ส่วนที่กีดขวางการจราจรได้ทั้งหมด สำหรับสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ ยังต้องรอการวิเคราะห์ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน
โดยวันนี้จะนำโดรนขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงเพิ่มเติม เพื่อนำมาวิเคราะห์การเคลื่อนตัวของโครงสร้างร่วมกับภาพที่ได้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จนกว่าจะสามารถหาแนวทางการแก้ไขได้อย่างปลอดภัยถูกต้องตามหลักวิศวกรรม
ขณะที่นายชัชชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เรื่องเส้นทางการจราจร ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.จรเข้น้อย เพื่อแก้ไขปัญหา เนื่องจากต้องมีการปิดการจราจรบางส่วนทั้งฝั่งขาเข้าขาออก โดยฝั่งขาเข้ามีการเปิดซอยทางลัดที่ซอยหลวงแพ่ง 6 และซอยหลวงแพ่ง 8 ไปออกที่ซอยหลวงแพ่ง 4 ส่วนขาออกมีซอยทางเชื่อมบริเวณตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ซึ่งตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ายังไม่มีปัญหาการจราจร
ปิดการจราจร 100 เปอร์เซ็นต์
ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. เปิดเผยหลังมาตรวจที่เกิดเหตุว่า เบื้องต้นได้ปิดการจราจร 100 เปอร์เซ็นต์ บริเวณถนนหลวงแพ่งฝั่งขาเข้า ส่วนฝั่งขาออก ผู้ใช้รถใช้ถนนยังคงสามารถใช้เส้นทางได้ แต่จะมีการคัดกรองให้ผ่านได้โดยเฉพาะรถเล็ก และรถจักรยานยนต์ ขณะที่ สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร และวิศวกร ขณะนี้ได้มีการปรึกษาหารือกัน ว่าจะสามารถกอบกู้ซากคานก่อสร้างสะพานถล่มแล้วเสร็จเมื่อไหร่
ในส่วนของศูนย์ควบคุมสั่งการจราจร ได้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง หากมีการเปิดการจราจร จะมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบทันที กรณีหากมีข้อสงสัยสอบถามสามารถโทรได้ที่เบอร์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่แนะนำเส้นทางให้ประชาชนรับทราบ
เบื้องต้น จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ มีรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน สามารถนำออกจากพื้นที่ได้แล้ว 1 คัน และยังคงติดอยู่ในซากอีก 1 คัน รวมถึงมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย ในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 7 ราย และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 5 ราย
สอบปากคำพยาน – ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหา
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้รับเหมาก่อสร้าง ความคืบหน้าล่าสุดได้มีการสอบปากคำพยานในบางส่วนแล้ว 6 ปาก ขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำ ทั้งในส่วนของผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ หากพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว จะมีการพิจารณาต่อไป
แนะเลี่ยงเส้นทาง ที่ได้รับผลกระทบจากสะพานถล่ม
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่11 ก.ค. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.น. รองโฆษก บช.น. แจ้งหลีกเลี่ยงเส้นทางกรณีเมื่อวันที่ 10 ก.ค.66 เวลาประมาณ 18.00น. ได้มีเหตุสะพานข้ามแยกทรุดตัว บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส ถนนหลวงแพ่ง บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.66 ตั้งแต่เวลา 05.00น. เป็นต้นไป จนกว่าจะแล้วเสร็จ ดังนี้ 1. เส้นทางที่ปิดการจราจร ถนนหลวงแพ่ง (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสหลวงแพ่ง ถึงทางเข้า สน.จรเข้น้อย
ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้ถนนฉลองกรุง ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ ถนนหลวงแพ่ง ฝั่งขาเข้า (ยกเว้น ช่วงหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสหลวงแพ่ง ถึง ทางเข้า สน.จรเข้น้อย) ถนนหลวงแพ่ง ฝั่งขาออก (ใช้งานได้ปกติ) ถนนโยธาธิการ ถนนลาดกระบัง
ทั้งนี้ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนการเดินทาง และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในภาพรวม เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเว็บไซต์ WW.TRAFFICPOLICE.GO.TH และ Facebook 1197