การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แทนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องถูกยกเลิกหลังองค์ประชุมไม่ครบ 250 คนตามกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดขั้นต่ำไว้ ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมเพียง 201 คน
การประชุมใหญ่ฯ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในช่วงเช้าของการประชุม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้ที่ประชุมงดเว้นข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 37 ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในกรณีที่กรรมการบริหารพรรคชุดเก่า พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เพื่อเลื่อนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า หากประชุมต่อจะทำให้เกิดผลกระทบภายในพรรค มีผู้แพ้-ผู้ชนะ แต่หาก ให้สมาชิกได้มีการพูดคุยก่อนประชุมจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ชนะไปด้วยกัน ยืนยันว่า การเสนอให้เลื่อนการประชุมครั้งนี้ ไม่ได้คำนึงถึงท่าทีรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ เลือกที่จะเป็นฝ่ายค้านแล้วจะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นผู้นำพรรคอีกครั้ง เพียงแต่เห็นว่า หากมีการพูดคุยกันภายในพรรคให้ตกผลึกมากกว่านี้ ความขัดแย้งต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายแล้วที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายองอาจ จึ
ดำเนินการประชุมต่อ
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคฯ เสนอต่อที่ประชุมให้งดใช้ข้อบังคับพรรคฯ ในข้อที่ 87 ที่กำหนดน้ำหนักคะแนนในการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ 25 คน มีน้ำหนักคะแนนร้อยละ 70 แต่อดีต ส.ส., อดีตรัฐมนตรี, อดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง, และอดีตหัวหน้าพรรคฯ จะมีน้ำหนักคะแนนเพียงร้อยละ 30 เพื่อให้องค์ประชุมมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน ซึ่งผลการลงมติปรากฏว่า สัดส่วนคะแนนมีไม่เพียงพอที่จะปรับสัดส่วนน้ำหนักคะแนน 1 สิทธิ์ 1 เสียง จึงทำให้ผลคะแนนในการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ยังต้องดำเนินการต่อไปบนสัดส่วนคะแนน 70:30 โดย นายสาธิต เปิดเผยภายหลังที่ประชุมมีมติดังกล่าวว่า จะทำให้น้ำหนักคะแนนไปขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ส.ส.ปัจจุบันของพรรคเพียง 25 คน ดังนั้น จึงอาจทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ ที่จะมีสมาชิกพรรคฯ เสนอชื่อเพื่อกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พ่ายแพ้ได้ หลังจากนั้นได้พักการประชุมรับประทานอาหารเที่ยง
เมื่อเข้าสู่ช่วงบ่าย ได้ตรวจสอบองค์ประชุมก่อนเข้าสู่กระบวนการ ปรากฏว่า มีองค์ประชุมเพียง 221 คน จากองค์ประชุมขั้นต่ำ 250 ที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ จึงทำให้ต้องยุติกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคฯ แต่นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคฯ ได้ร้องขอต่อที่ประชุมให้รอองค์ประชุมก่อนประมาณ 15 นาที เพื่อให้สมาชิกกลับมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง หลังมีสมาชิกส่วนหนึ่งไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรมใกล้กับสถานที่จัดประชุม แต่เมื่อมีการนับองค์ประชุมอีกครั้งกลับเหลือองค์ประชุม 201 คน ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้การประชุมใหญ่ฯ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคฯ ต้องเลื่อนออกไปก่อน
เบื้องหลังการประชุมล่ม เนื่องจาก ส.ส.ปัจจุบัน 25 คน มี 17 คน มีท่าทีที่จะสนับสนุนนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อีกฝ่ายจึงแก้เกมเพราะเห็นว่าข้อบังคับการประชุมให้น้ำหนักกับส.ส.ปัจจุบัน มีน้ำหนักคะแนนร้อยละ 70 จึงทำให้นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม อดีต ส.ส.ที่ให้การสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ ที่นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฯ จะเป็นผู้เสนอต่อที่ประชุมด้วยตนเอง และนายนราพัฒน์ ก็ยืนยันพร้อมที่จะท้าชิงตำแหน่งหากมีการเสนอชื่อ ดังนั้น จึงมีความกังวลว่า ผลคะแนนที่ออกมาจะไม่เป็นธรรม และทำให้นายนราพัฒน์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่
ด้านนายจุรินทร์ เปิดเผยภายหลังการประชุมล่ม ว่า จะรีบนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ โดยเร็ว ซึ่งคาดว่า จะมีการประชุมในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ เพื่อยกเว้นข้อบังคับพรรค ให้เกิดการประชุมเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคฯ ชุดใหม่อีกครั้ง
สำหรับการประชุมเลือกหัวหน้าพรรคในครั้งนี้มีรายงานว่า มีผู้เสนอชื่อ 4 คน ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ,
มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข,นายนราพัฒน์ แก้วทอง และพ.ท.หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล