เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Yevgeny Prigozhin หัวหน้า Wagner Group ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังรับจ้างที่เคยร่วมกับรัสเซียในการโจมตียูเครนได้เคลื่อนพลบางส่วนเข้าสู่พื้นที่ของเมืองรอสตอฟ ทางตอนใต้ของรัสเซีย และนำไปสู่การยิงปะทะกันในเมืองตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
สถานการณ์ล่าสุด –
24 มิ.ย. 16.00 น. – (เวลาไทย) ในขณะที่บริเวณนอกเมือง Voronezh เหตุปะทะกันระหว่าง กองกำลังของกลุ่มวากเนอร์กับกองทัพรัสเซีย ซึ่งทางวากเนอร์อ้างว่า สามารถยึดเมืองรอสตอฟ และ โวโรเนซ ไว้ได้ และกำลังรุกคืบต่อไป นอกจากนี้ยังอ้างว่า มีทหารรัสเซียบางส่วนได้ยอมจำนนต่อกลุ่มวากเนอร์ด้วย
24 มิ.ย. 15.30 น. – (เวลาไทย) หลังสิ้นสุดคำแถลงการณ์ของประธานาธิบดีปูติน ประชาชนที่ไม่พอใจกลุ่มวากเนอร์ในเมืองรอสตอฟ ก็ได้ออกมาเดินบนท้องถนน ซึ่งในขณะนี้ สถานการณ์ทางกลุ่มวากเนอร์ระบุว่า ยังควบคุมได้
24 มิ.ย. 15.00 น. – (เวลาไทย) ประธานาธิบดีปูตินได้ออกแถลงการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการแทงข้างหลังประเทศและประชาชน พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ย้ำ ผู้ก่อกบฎจะถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ดูเพิ่มเติม : ปูตินแถลง “วากเนอร์” แทงข้างหลังประเทศ – ประกาศกร้าว จัดการเด็ดขาด
24 มิ.ย. 14.00 น. – (เวลาไทย) พริโกชิน ผู้นำของกลุ่มวากเนอร์ ยืนยันให้ พล.อ. เซียร์เกย์ ชอยกู รมต.กลาโหมรัสเซีย และจนท.ระดับสูงในกองทัพรัสเซียมาพบที่เมืองรอสตอฟ หากไม่มา จะปักหลักอยู่ในพท.กองบัญชาการทหารของรอสตอฟ และจะปิดล้อมเมือง พร้อมกับมุ่งหน้าสู่มอสโก โดยสถานการณ์ในเมืองรอสตอฟ ยังคงสงบอยู่ แต่ระดับความตึงเครียดค่อนข้างสูงมาก ทั้งสองฝ่าย
ในขณะที่มีรายงานพบขบวนของกลุ่มวากเนอร์ในเส้นทาง M-4 ที่เมือง Pavlovsk ในภูมิภาค Voronezh ห่างจากรอสตอฟฯ ราว 300 กม. อยู่เกือบกึ่งกลางระหว่าง รอสตอฟ – มอสโก
24 มิ.ย. 13.00 น. – (เวลาไทย) มีรายงานการพบขบวนของวากเนอร์ที่ถนนเส้น M-4 ใกล้กับเมือง Pavlovsk ในภูมิภาค Voronezh ซึ่งอยู่ถัดจากรอสตอฟไป ราว 300 กม.
พริโกชิน ประกาศจะยึดเมืองรอสตอฟต่อไป และเรียกร้องให้ให้ พลเอก เซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เดินทางมาพบที่รอสตอฟ พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัสเซีย
24 มิ.ย. 12.00 น. – (เวลาไทย) ในเทเลแกรมของกลุ่มวากเนอร์ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งแสดงให้เห็นว่า พริโกชิน ผู้นำกลุ่มวากเนอร์ยังคงอยู่ในกองบัญชาการกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในเมืองรอสตอฟ รวมถึงพริโกชินยังอ้างว่า มีทหารของกองทัพรัสเซียจำนวน 60-70 คน ที่หันมาเข้าร่วมกับวากเนอร์
ในคลิปยังแสดงถึงนายทหารระดับสูง 2 คนของรัสเซียที่เข้าเจรจากับพริโกชินในรอสตอฟ คือ พลเอก Yunus-Bek รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลโท. ladimir Alekseyev รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย
โดยพริโกชินยังระบุว่า ในขณะนี้ วากเนอร์ได้ควบคุมยุทโธปกรณ์ทางการทหารในเมืองไว้ได้หมดแล้ว
ทางด้านของรัสเซีย มีรายงานการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมในทางหลวงมอเตอร์เวย์สาย M-4 ที่ปิดไปก่อนหน้านี้
24 มิ.ย. 11.00 น. – (เวลาไทย) สถานการณ์ในเมืองรอสตอฟ ได้สงบลงแล้ว แต่กองทัพรัสเซียยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ของเมือง รวมถึงมีการสั่งปิดถนนบางสาย และเฝ้าระวังที่เข้มงวดในจุดสำคัญ ๆ เช่น อาคารสำนักงานของรัฐ
ทางด้านของผู้ว่าฯ ของภูมิภาครอสตอฟ ยังคงขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและอยู่ในที่ตั้ง ไม่ออกนอกบ้านหรือที่พักโดยไม่จำเป็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัสเซียยังคงปฏิบัติหน้าที่ ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย
ในขณะที่กรุงมอสโก มีการสั่งปรับยกระดับความปลอดภัย รวมถึงมีรายงานการเคลื่อนกองกำลังทหารของรัสเซียบางส่วนเข้าคุมพื้นที่รักษาความปลอดภัย
ทางด้านของมอสโกระบุว่า จะยกระดับการป้องกันการก่อการร้ายในเมือง เพื่อป้องกันรักษาความปลอดภัยให้เพิ่มมากขึ้นจากปรกติ เส้นทางมอเตอร์เวย์ M-4 ของรัสเซียมีการประกาศปิดการจราจรแล้ว
…
รัสเซีย-วากเนอร์ขัดแย้งอะไรกัน
แม้ว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ รัสเซียและวากเนอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มทหารรับจ้าง จะมีร่วมกันปฏิบัติการโจมตียูเครนกันมาก่อนหน้านี้ แต่ในระยะหลังเริ่มมีปัญหาระหองระแหงกันมาเป็นระยะ ๆ เรื่องของการจัดหาอาวุธและส่งกำลังบำรุง แต่ที่ผ่าน ๆ มาก็สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในท้ายที่สุด
ซึ่งวากเนอร์ถือว่า เป็นกองกำลังที่มีบทบาทในปฏิบัติการครั้งนี้ โดยเฉพาะที่บัคมุต และความขัดแย้งก็เพิ่มากขึ้น โดย Yevgeny Prigozhin หัวหน้า Wagner Group มักจะวิจารณ์แผนต่าง ๆ ของมอสโกอย่างรุนแรงในหลายครั้ง โดยเฉพาะ Shoigu และ Valery Gerasimov ซึ่งเป็นนายพลระดับสูงของรัสเซีย ว่า ไร้ความสามารถและไม่ยอมสนับสนุนในสิ่งที่วากเนอร์เรียกร้อง ส่งผลให้กองกำลังของวากเนอร์ต้องสูญเสียไปโดยไม่จำเป็น
ในขณะเดียวกันเมื่อช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา รัสเซียแสดงความต้องการที่จะให้กลุ่มวากเนอร์ไปเซ็นสัญญาเพื่อเข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียในปฏิบัติการโจมตียูเครน ซึ่งสัญญาดังกล่าว จะทำให้วากเนอร์ต้องปฏิบัติตามแผนของรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย
นั่นทำให้บางส่วนของกลุ่มวากเนอร์มองว่า รัสเซียกำลังจะควบรวมกองกำลังของวากเนอร์ไปอยู่ภายใต้การควบคุมของมอสโก
ในขณะที่รายงานของทางฝั่งตะวันตกระบุว่า วากเนอร์และรัสเซีย กำลังแข่งกันเป็นศูนย์กลางของอำนาจของกองทัพ ดังนั้นจึงทำให้ทั้งสองฝ่ายพยายามแสดงอำนาจทางทหารของตนเองมากขึ้น
พริโกชินอ้าง ถูกรัสเซียโจมตี
หลังจากมีความไม่ลงรอยระหว่างกันมากขึ้น ท่าทีของพริโกชิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ก็ออกมาแสดงท่าทีส่งสัญญาณต่อมอสโกชัดเจนมากขึ้น เช่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็วิจารณ์เรื่องของลำดับขั้นยศของทหารรัสเซียอย่างเผ็ดร้อน
และนอกจากนี้ ยังได้กล่าวหาว่า ผู้นำของกองทัพรัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตีค่ายทหารของวากเนอร์ และส่งผลให้กองกำลังทหารรับจ้างของวากเนอร์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก พร้อมย้ำว่า “จะเอาคืนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น”
ทางด้านของกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ พริโกชินว่า ไม่เป็นความจริง และเป็นการยั่วยุให้ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกัน โดยมียูเครนอยู่เบื้องหลัง
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ พริโกชินอ้างว่า มีกองกำลังวากเนอร์เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นราว 2,000 คน แต่ก็ไม่ได้มีการแสดงหลักฐานที่ชัดเจน
วากเนอร์เคลื่อนกำลังพล
เมื่อเวลา 02:04 น. ตามเวลายูเครน พริโกชิน ได้กล่าวว่า กองกำลังของวากเนอร์ได้เคลื่อนขบวนข้ามจากยูเครนไปยังเมืองรอสตอฟแล้ว และพร้อมที่จะต่อสู้กับทุกคนที่ขัดขวางการเคลื่อนขบวนในครั้งนี้
นอกจากนี้ยังได้ย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้น “ไม่ใช่การทำรัฐประหาร” แต่เป็น “การทวงคืนความยุติธรรม” ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับวากเนอร์จากการโจมตีฐานที่มั่น และนำไปสู่ความสูญเสียกำลังพล
ทางด้านของ หน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลกลางของรัสเซีย (FSB) ได้ประกาศให้กองกำลังของวากเนอร์อย่าไปฟังคำพูดของพริโกชิน และได้ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า กำลังดำเนินคดีอาญากับ พริโกชิน ข้อหาก่อการร้าย
ทางด้านของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน นั้นหลายฝ่ายระบุว่า ได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และให้นโยบายต่อกองทัพรัสเซียว่า “ใช้มาตรการเท่าที่จำเป็น” ในการรักษาความปลอดภัย ส่งผลให้มีการยกระดับความปลอดภัยของกรุงมอสโก รวมถึงรอสตอฟเพิ่มขึ้น
…
พริโกชิน อ้าง รัสเซียเปิดฉากยิง
ภายหลังจากที่ประกาศเคลื่อนขบวนไปได้ไม่นาน ในเวลาประมาณ 02.30 น. ตามเวลาในยูเครน พริโกชินได้อ้างว่า เฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียได้โจมตีไปยังรถบรรทุก และรถยนต์
ก่อนมีรายงานตามมาว่า มีการปะทะกันในเมืองรอสตอฟ และมีการเคลื่อนกำลังพลของกองทัพรัสเซียเข้าสกัดกั้น กลุ่มวากเนอร์ของพริโกชิน พร้อมประกาศชัดเจนว่า พริโกชินกระทำผิด และถือเป็นการก่อกบฎต่อรัสเซีย พร้อมทั้งขอให้กองกำลังของวากเนอร์หยุดอยู่ในที่ตั้ง และไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพริโกชิน
การปะทะเกิดขึ้นอยู่ระยะหนึ่งก่อนที่สถานการณ์จะค่อย ๆ เงียบสงบลง ในขณะที่กองทัพรัสเซียได้มีการส่งกองกำลังเข้ารักษาความสงบเพิ่มขึ้น รวมถึงยานเกราะอีกหลายคัน
…
ทำเนียบขาว – ยูเครนเฝ้าจับตาสถานการณ์
ทางด้านของทำเนียบขาว มีรายงานระบุว่า กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงท่าที่ของ พริโกชิน ผู้นำกลุ่มวากเนอร์ รวมถึง เซอร์เก โชอิกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายวาเลรี เกราซิมอฟ เสนาธิการทหารสูงสุด พร้อมทั้งร่วมประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาติพันธมิตรอื่น ๆ ด้วย
ทางด้านของกระทรวงกลาโหมของยูเครน ก็ได้ส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์ของกระทรวงโดยระบุว่า “เรากำลังดูอยู่”
…
ทำไมพริชินโกต้องบุกรอสตอฟ
สำหรับเมืองรอสตอฟ ถือเป็นเมืองทางตอนใต้ที่อยู่ติดกับภูมิภาคดอนบาส-ลูแกนส์ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า เป็นเมืองหลักที่ถูกใช้เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการของกองทัพรัสเซียในแถบทางตอนใต้ของประเทศ และในปฏิบัติการโจมตียูเครนนั้น ถือเป็นกุญแจหลักในการใช้เป็นที่ตั้งของการส่งกำลังบำรุงต่าง ๆ และบัญชาการรบด้วย