ตอนนี้ กู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเรือดำน้ำ “ไททัน” โดยตามหา ต้นตอของเสียงที่ได้ยินมาจากใต้มหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณที่เรือหายไป หลังจากระบบโซนาร์ของเครื่องบินจากแคนาดาตรวจจับเสียงใต้ทะเลคล้ายเสียงเคาะดังเป็นระยะๆ เมื่อช่วงวันอังคาร โดยครั้งแรกที่ได้ยิน ดังห่างกันทุกๆ 30 นาที และทิ้งช่วงไป
ทีมจากสหรัฐฯ แคนาดา และฝรั่งเศส ทำการค้นหาทั้งทางอากาศและทางน้ำ กินพื้นที่ทะเลเปิดกว่า 25,900 ตารางกิโลเมตร หรือขนาดพอๆ กับรัฐแมสซาชูเซตต์ของสหรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มีโอกาสเพียง 1% ที่ผู้โดยสารทั้ง 5 คนที่อยู่ในเรือดำน้ำจะรอดชีวิต
ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างข้อมูลจากอดีตพนักงานของ “โอเชียนเกต” บริษัทเจ้าของเรือดำน้ำที่แสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยของเรือลำนี้ ในแง่ของความหนาของวัสดุที่ใช้และขั้นตอนการทดสอบ โดยบอกว่า เทคโนโลยีที่ใช้กับเรือไททันเป็นเรื่องใหม่มาก ทำให้ไม่มีการตรวจสอบจากฝ่ายอื่น
นอกจากนี้ การค้นหาใต้ทะเลลึกก็ทำได้ยากมาก เพราะมีพื้นที่แค่ 20% ของใต้ทะเลที่มีการทำแผนที่แล้ว ใต้ทะเลลึกยังมืดมาก แทบมองไม่เห็นอะไร และอุณหภูมิก็เย็นมากด้วย ก็ต้องลุ้นกันว่า ก่อนเวลาห้าโมงเย็นวันนี้ ที่คาดว่าออกซิเจนในเรือดำน้ำ จะหมด จะค้นหาเรือเจอหรือไม่
สำหรับซากเรือไททานิก ที่เป็นจุดสำคัญซึ่งคนในเรือดำน้ำ “ไททัน” ต้องการไปชม จมอยู่ใต้ทะเลลึกเกือบ 13,000 ฟุต ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ นิวฟันด์แลนด์ของแคนาดา
ทั้งนี้ ก่อนล่มเมื่อกว่า 100 ปีก่อน เรือไททานิก เรือสำราญสุดหรูและใหญ่ที่สุดของโลกในยุคนั้น ออกเดินทางจากเซาแทมป์ตันในอังกฤษเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 2455 ปลายทางคือนิวยอร์กของสหรัฐฯ แต่ระหว่างวันที่ 14 ถึง 15 เมษายน เรือขนกับภูเขาน้ำแข็งก่อนล่มลง ตอนเกิดเหตุมีผู้โดยสารและลูกเรือประมาณ 2,200 คน มีคนเสียชีวิตกว่า 1,500 คน และตั้งแต่ปี 2528 ก็มีการค้นพบซากเรือไททานิก และมีการสำรวจซากเรืออย่างต่อเนื่อง โดยเดือนที่แล้ว มีการเปิดเผยภาพจำลองซากเรือไททานิก แบบ 3 มิติ ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้เข้าใจสาเหตุที่ทำให้เรือล่มได้มากขึ้น