วันที่ 17 มิถุนายน 2566 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เผยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยาน หรือ Airport Interdictoin Task Force (AITF) ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. ศุลกากร บช.ปส. และ ศูนย์รักษาความปลอดภัย ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศ จำนวน 1 กล่อง พบเอ็กซ์ตาซี จำนวน 5,865 เม็ด ซุกซ่อนภายในกระป๋องผลิตภัณฑ์กาแฟ จำนวน 4 กระป๋อง ปะปนมากับขนมชนิดต่าง ๆ ต้นทางมาจากประเทศฝรั่งเศส ณ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ กรุงเทพมหานคร จึงร่วมกันทำการตรวจยึด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้สั่งการให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวนขยายผลผู้ส่งยาเสพติด หลังจากการตรวจสอบชื่อและสถานที่จัดส่งบนพัสดุ พบว่าเป็นการอำพรางการจัดส่งมาจากต่างประเทศ จึงได้ทำการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุบนหน้ากล่อง ชื่อ นายนพวิทย์ (สงวนนามสกุล) ชาวไทย แต่หมายเลขหนังสือเดินทางที่ระบุบนกล่องเป็นของชาวเมียนมา ชื่อนาย KYAY อายุ 57 ปี
จากนั้นเมื่อตรวจสอบชื่อนายนพวิทย์อย่างละเอียด พบว่าเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุมในข้อหาครอบครองไอซ์ 206.7 กรัม เคตามีน 101.58 กรัม อีริมินไฟว์ 28 แผง และโคเคน (อัดแท่ง) 10.80 กรัม ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดการนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาอี (Ecstacy) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี และปรับไม่เกิน1,500,000 บาท ถ้าหากมีไว้ในครอบครองอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 2,000,000 บาท
จากการตรวจสอบพัสดุต้องมีความเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีโอกาสถูกใช้สูง ซึ่งจากข้อกำหนดการส่งพัสดุทุกครั้งต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง (กรณีเป็นชาวต่างประเทศ) เพื่อให้สามารถตรวจสอบไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมายได้ทันที
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส. จะขยายผลและรวบรวมหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมฝากถึงบริษัทขนส่งพัสดุ ผู้ประกอบการขนส่งช่วยกันเข้มงวด ตรวจสอบพัสดุ ต้องสงสัย หากพบความผิดปกติ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. โทร 1386 ตลอด 24 ชม.