คัดลอก URL แล้ว
ผู้เสียหายร้องตำรวจไซเบอร์​ ถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุนสูญเงินกว่า 3.5 ล้าน

ผู้เสียหายร้องตำรวจไซเบอร์​ ถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุนสูญเงินกว่า 3.5 ล้าน

วันนี้ (15 มิ.ย.66) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายจากกรณีถูกมิจฉาชีพหลอก โดยการทักเข้ามาในแอปพลิเคชั่น tiktok แล้วชวนลงทุนเทรดหุ้น หมดเงินไป 3.5 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 3 วัน เข้าแจ้งความต่อพล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย

โดยนายคิง ผู้เสียหาย เล่าว่า มีบุคคลปริศนาโทรติดต่อเข้ามาผ่านเบอร์มือถือ แนะนำตัวว่ามาจากส่วนกลางของ Tiktok โดยอ้างว่าตนเองมีคุณสมบัติตรงตามที่ทาง Tiktok กำหนด มีการเชิญชวนทำภารกิจ ดูคลิปวีดีโอ และกดติดตาม จะได้เงิน 15 บาทต่อ 1 คลิป โดยตนเองได้ทำภารกิจไปทั้งหมด 3 คลิป ได้เงิน 45 บาท หลังจากชวนเข้ากลุ่มไลน์ที่มีสมาชิก 60 คน โดยจะเริ่มให้ลงทุนจ่ายเงิน เพื่อดูคลิป คลิปละ 100 บาท ได้กำไร 30% ต่อคลิป

หลังจากนั้นจะมีการชวนเข้ากลุ่มไลน์อีกกลุ่มให้ลงทุนเทรดหุ้น เริ่มต้นการลงทุน 5,990 บาทจนไปถึงหลักแสนบาท ตนเองได้โอนเงินลงทุนก้อนแรก 5,990 บาท ได้กำไร 60% ภายใน 3 วินาที แต่ยังไม่สามารถถอนเงินได้ และยังมีการโอนเงินเข้าไปเพิ่มเติมอีกหลายครั้งรวมเป็นจำนวนเงินร่วมล้านบาท

เนื่องจากจะต้องโอนเงินเข้ามาเพื่อเสียค่าภาษี 2 ครั้ง โดยตัวผู้เสียหายได้โอนเงินค่าเสียภาษีครั้งแรก 1.7 ล้านบาท แต่มิจฉาชีพกลับอ้างว่า ผู้เสียหายทำผิดขั้นตอน จึงจำเป็นต้องโอนเิงนเข้ามาเพิ่มอีก 2.2 ล้านบาท เพื่อถอนเงินทั้งหมดกว่า 4 ล้านบาทออกมาได้ ซึ่งผู้เสียหายไม่มีการโอนเงินภาษีครั้งที่ 2 เข้าไป ก่อนจะเข้าขอความช่วยเหลือกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองต้องการเงินที่ได้มีการลงทุนไปทั้งหมดคืน รวมถึงอยากให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุซ้ำกับผู้เสียหายรายอื่น
เบื้องต้นทนายรณณรงค์ ได้แจ้งความใน 3 ข้อหา ได้แก่ ฉ้อโกงประชาชน / พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และบัญชีม้า

ด้านพล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เป็นผู้มารับเรื่องด้วยตนเอง พร้อมระบุว่า ได้มอบหมายให้พล.ต.ต. ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ตอท.) เร่งรัดดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นหลอกผ่านแอปพิเคชัน Tiktok โดยเป็นการหลอกให้ลงทุนจำนวนเงินเล็กน้อย จนหลงเชื่อ ซึ่งตอนนี้จะต้องเร่งหาเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพ

หลังจากนี้จะกดดันประเทศโดยรอบ ทั้งเมียนมาร์ และกัมพูชา เพราะว่าคนร้านอยู่ในต่างประเทศและทำงานเป็นเครือข่าย โดยนืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินการ เนื่องจากมีประชาชนถูกหลอกเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต. ชูศักดิ์ แนะนำว่า หากเกิดเหตุการณ์ละกษณะนี้ ผู้เสียหายควรรีบดำเนินการแต้งธนาคารเพื่ออายัติบัญชีของตนเองภายใน 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อายัติจากธานาคารปลายทางต่ออีก 7 วัน เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป


ภาพ – ธนโชติ ธนวิกรานต์


ข่าวที่เกี่ยวข้อง