“รังสิมันต์ โรม” เชื่อ ปมหุ้นสื่อ “พิธา” คือการพยายามกลั่นแกล้งทางการเมือง หลังสื่อเปิดหลักฐานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี เผย ผู้เกี่ยวข้องต้องออกมาชี้แจง
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อเปิดหลักฐานคลิปวิดีโอประชุมผู้ถือหุ้นสื่อไอทีวีนั้น ยืนยันว่า เราพร้อมสู้คดีทุกรูปแบบ และเมื่อมีการเปิดเผยออกมาแบบนี้ ก็แปลได้ว่ามีขบวนการทางการเมืองเกิดขึ้นจริง ซึ่งในขบวนการดังกล่าวคงต้องไปดูว่าการที่พรรคก้าวไกลกำลังจัดตั้งรัฐบาล หากก้าวไกลทำสำเร็จ เชื่อว่าจะมีบุคคลบางกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เนื่องจากหากก้าวไกลจัดตั้งได้ ในบางนโยบายอาจจะไปทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เสียผลประโยชน์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าวันนี้เจตจำนงของ ประชาขนที่ได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และก้าวไกลสามารถรวมเสียงกับพรรคต่างๆ จนได้กว่า 313 เสียงแล้ว เป็นสิ่งยืนยันว่าวันนี้เจตจำนงของประชาชนควรจะได้รับการเคารพ
ทั้งนี้หากประชาชนไม่พอใจในการบริหารงานของก้าวไกล ก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน สุดท้ายประชาชนก็อาจจะไม่เลือกก้าวไกลก็ได้ หรืออาจจะไปเลือกพรรคอื่น แต่ขอเพียงอย่าใช้วิธีการสกปรก หรือใช้วิธีการบิดเบือน ปลอมแปลงเอกสารใดๆ ที่อาจจะเป็นเจตนาที่ทำให้ก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยเชื่อว่าการเมืองตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามกลั่นแกล้งทางการเมือง และวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และหวังว่าคนที่คิดเรื่องเหล่านี้ จะหยุดพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ซึ่งก้าวไกลก็คงจะต้องขอสงวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนกรณีที่มีข้อคิดเห็นว่าในบางช่วงบางตอนของคลิปวิดีโอดังกล่าว มีการตัดต่อหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ เชื่อว่า คงไม่ใช่การตัดต่อ เพราะมีการพูดชัดเจนอยู่แล้ว อีกทั้งตนเชื่อมั่นในตัวพี่แยม ฐปนีย์ เห็นได้จากผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา และเรื่องการตัดต่อนั้นต้องถามว่าพี่แยมและช่อง 3 จะได้อะไรจากเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นตนค่อนข้างเชื่อมั่นในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ และเชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คงต้องออกมาชี้แจง เพราะมันมีความผิดตามกฎหมายจริงๆ เพราะการบันทึกการประชุมเท็จเช่นนี้ ตาม พ.ร.บ.กฎหมายบริษัทมหาชน จำกัด ก็มีความผิด และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ยืนยันในสิ่งที่ก้าวไกล ได้ยืนยันมาตลอดว่ากรณีนี้มีความพยายามจะฟื้นคืนชีพไอทีวีเพื่อมาทำลายทางการเมืองจริงๆ
ส่วนกรณีที่นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ส.ส.พรรคภูมิในไทย ยังคงยืนยันว่าในการประชุมออนไลน์ผู้ร่วมถือหุ้นเมื่อเดือนเมษายน ปรากฏความตามบันทึกรายงานการประชุมจริง ว่าบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่นั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า การที่นายนิกม์มีพยายามให้ความเห็นแบบนี้ ตนไม่แน่ใจว่ามีเจตนาอะไร แต่ทุกอย่างมีคลิปวิดีโอที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่ กกต. กำหนดไต่สวนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในมาตรา 151 นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พูดกันอย่างตรงไปตรงมามันคือการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง ยืนยันว่าเราพร้อมเข้าสู่กระบวนการและพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็หวังว่ากระบวนการทั้งหลายที่จะใช้กับเราขอให้เป็นกระบวนการทางกฏหมายจริงๆ ส่วนตัวไม่กังวล และหวังว่ากรณีที่ปรากฏเมื่อคืนนี้ฝ่ายต่างๆ ที่คิดว่าจะใช้กรณีนี้ในการทำร้ายกันทางการเมืองควรจะพิจารณาได้แล้วว่าควรเลิก อย่าทำลายกระบวนการยุติธรรม หรือกระบวนการที่ประชาชนไปใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งกันมา อย่าทำให้ประเทศไทยแย่ไปกว่านี้