ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ร่วมกับมหาวิทยาลัยเยล และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ระบุว่าความผิดปกติด้านการนอนหลับทำให้ผู้คนเสี่ยงป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ซึ่งรวมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่อาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น
คณะนักวิจัยใช้ข้อมูลจากกลุ่มสำรวจราว 6 แสนคน โดยพบกลุ่มสำรวจชาวฟินแลนด์ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคนอนไม่หลับ มีความเสี่ยงของการติดเชื้อในทางเดินหายใจแบบไม่มีลักษณะจำเพาะสูงกว่าเกือบ 6 เท่า และความเสี่ยงป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สูงกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มสำรวจอื่นๆ
การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีระบาดวิทยาทางพันธุกรรมมาตรวจสอบความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างการนอนไม่หลับและการติดเชื้อ และพบความเชื่อมโยงระหว่างการนอนไม่หลับกับความรุนแรงของอาการป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งกรณีเลวร้ายที่สุดคือต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ฮันนา โอลิลา จากสถาบันแพทยศาสตร์โมเลกุลแห่งฟินแลนด์ และมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ กล่าวว่าผลการศึกษานี้สอดคล้องกับบทความการศึกษาก่อนหน้านี้ และแสดงให้เห็นว่าการนอนหลับให้เพียงพอมีความสำคัญต่อการรักษาภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพของร่างกาย
อนึ่ง สมาคมเวชศาสตร์การนอนหลับแห่งอเมริการะบุว่าราวร้อยละ 30 ของผู้ใหญ่ประสบปัญหาการนอนหลับ ดังนั้นผลการศึกษานี้อาจจะมีผลอย่างมากต่อการปรับปรุงแนวทางทางสาธารณสุข โดยผลการศึกษานี้เผยแพร่ผ่านอีไบโอเมดิซีน (eBioMedicine) วารสารการแพทย์แบบเปิดที่มีผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรอง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ที่มา – ซินหัว