รายงานจากสภาความหลากหลายทางชีวภาพ สภาสัตว์รุกรานต่างถิ่น และองค์กรเบิร์ดไลฟ์ ออสเตรเลีย ระบุว่าแต่ละปีแมวเลี้ยงของมนุษย์ฆ่าสัตว์พื้นเมืองออสเตรเลียสูงถึง 323 ล้านตัว ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จาก 241 ล้านตัวในปี 2020 หลังจากมีการเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นระหว่างการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
รายงานระบุว่าครัวเรือนออสเตรเลียราว 1 ใน 3 เลี้ยงแมว และครึ่งหนึ่งเลี้ยงแมวสองตัวหรือมากกว่านั้น โดยคณะผู้เขียนรายงานวิจัยนี้เรียกร้องชาวออสเตรเลียรับผิดชอบสัตว์เลี้ยงของตนเองมากขึ้น เนื่องจากพบเจ้าของแมวร้อยละ 71 ยังคงปล่อยพวกแมวออกเตร็ดเตร่ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี
ซาราห์ เล็กจ์ นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยชาลส์ ดาร์วิน และโฆษกประจำสภาความหลากหลายทางชีวภาพ กล่าวว่าจำนวนสัตว์ป่าถูกฆ่าตายที่เพิ่มขึ้นสะท้อนกระแสเลี้ยงสัตว์แพร่หลายอย่างจำนวนแมวเลี้ยงสูงแตะ 5.3 ล้านตัว ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนรัฐบาลควรออกกฎหมายการเลี้ยงสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ เช่น การกำหนดห้ามแมวเลี้ยงออกนอกบ้านตลอดเวลา
อนึ่ง เขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) มีกฎระเบียบที่กำหนดให้ผู้อยู่อาศัยกักตัวแมวเลี้ยงของพวกเขาตลอดเวลา ด้านรัฐวิกตอเรียมีกฎระเบียบกักตัวแมวเลี้ยงเช่นเดียวกัน ทว่ารัฐอื่นๆ ยังไม่สามารถบังคับใช้กฎลักษณะนี้เพราะอุปสรรคทางกฎหมาย
ด้านสภาสัตว์รุกรานต่างถิ่นอ้างว่าการกำหนดห้ามแมวเลี้ยงออกนอกบ้านตลอดเวลาหรือมาตรการเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง/ 7 วัน ในพื้นที่มหานครซิดนีย์เพียงแห่งเดียวจะช่วยชีวิตสัตว์พื้นเมืองปีละ 66 ล้านตัว
รายงานเสริมว่าทุกปีมีสัตว์พื้นเมืองถูกฆ่าเฉลี่ย 110 ตัว ซึ่งแบ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลาน 40 ตัว นก 38 ตัว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 32 ตัว ระหว่างการออกเตร็ดเตร่และล่าเหยื่อของแมวเลี้ยงแต่ละตัว
ฮอลลี พาร์สันส์ จากเบิร์ดไลฟ์ ออสเตรเลีย ทิ้งท้ายว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแมวได้ แต่เราสนับสนุนทางเลือกที่ดีกว่าให้เจ้าของแมวได้
ที่มา – ซินหัว