จากกรณี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ดำเนินการล่อซื้อบริการทางเพศเด็ก ที่สถานบริการแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต สามารถช่วยเด็กหญิงออกมาได้ 6 คน ซึ่งต่อมาได้มีคำสั่งย้าย 5 เสือ สภ.ป่าตอง ไป ศปก.ภ.8 ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้ว นั้น
ต่อมาวันนี้ (18 มี.ค.66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนภาค 8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต และ พมจ.จว.ภูเก็ต เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าว พบว่าล่าสุดตำรวจได้ขยายผลเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงเพิ่มอีก 2 ราย โดยได้ส่งตัวเข้ารับการดูแลที่บ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต เพื่อรอเข้ากระบวนการคัดแยกเหยื่อว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่ นอกจากนี้ยังพบว่า ยังมีเด็กที่อยู่ในเครือข่ายถูกนำมาค้าประเวณีลักษณะเดียวกันอีก 7 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล และเข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM เพื่อคัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพ
ส่วนการติดตามตัวเจ้าของสถานบริการซึ่งเป็นชาวต่างชาติ (สวิส) ขณะนี้หลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีเพื่อนร่วมธุรกิจอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้ ตม. ได้ขึ้นทะเบียนเฝ้าระวังไว้แล้ว โดยพบว่าการทำธุรกิจบริการของคนกลุ่มนี้ เป็นการทำธุรกิจแบบนอมินี มีคนไทยรับออกหน้าเป็นตัวแทน และยังมีสาขาอีกหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว
ในวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ ภ.8 เร่งขยายผล ความเชื่อมโยงสถานบริการลักษณะนี้ ในพื้นที่ท่องเที่ยว ที่เกี่ยวพันกับเครือข่ายนี้ และให้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการทางเพศเด็กทั้งหมดด้วย ในส่วนของการสอบสวนแม่เล้า 2 คน ที่ถูกจับ เบื้องต้นยอมรับว่า ได้ชักชวนเด็กๆ ทั้งหมด ที่มาขายบริการผ่านเฟซบุ๊ก โดยเด็กดังกล่าวเดินทางมาจากหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่อ้างว่ามีปัญหาครอบครัว และออกมาอาศัยอยู่กับญาติ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กดังกล่าวเป็นคดีที่เข้าข่ายคดีค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น และไม่ควรมีอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากการกระทำผิดดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจ ดังนั้นในคดีดังกล่าวจะต้องมีการดำเนินคดีถึงที่สุด ได้สั่งการให้ขยายผลไปถึงเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ขณะนี้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะให้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้ซื้อบริการทางเพศเด็กทั้งหมดด้วย ในส่วนของเด็กขณะนี้ได้รับการดูแลที่บ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ตแล้ว จากนี้จะดำเนินการร่วมกับสหวิชาชีพ และภาคประชาสังคม ตามกลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) เพื่อดำเนินการคัดแยกเหยื่อ และช่วยเหลือเยียวยา เพื่อให้เด็กมีความพร้อมในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม