KEY :
- สถานการณ์ของ Credit Suisse ธนาคารอันดับที่ 2 ของสวิส แย่หนัก หลังหุ้นของธนาคารร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
- ผลมาจาก SNB ผู้ถือหุ้นของธนาคารจากซาอุฯ ประกาศจะไม่ลงทุนเพิ่ม
- ก่อนหน้านี้บริษัทด้านการลงทุนในสหรัฐฯ ประกาศว่าได้เทขายหุ้นของ Credit Suisse ออกมาเพราะผิดหวังกับกลยุทธ์ของทางธนาคาร
- โดย Credit Suisse เผชิญปัญหาต่าง ๆ หนักที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคาร ทั้งการขาดทุนสะสมต่อเนื่อง การไหลออกของลูกค้า รวมไปถึงเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น และการเปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูงบ่อยครั้ง
…
นักวิเคราะห์กำลังจับตาสถานการณ์ของธนาคาร Credit Suisse ซึ่งเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เนื่องจาก Credit Suisse กำลังเผชิญวิกฤติต่าง ๆ ที่รุนแรงที่สุดตลอด 167 ปีตั้งแต่ก่อตั้งธนาคาร และยังไม่มีวี่แววที่จะสามารถกอบกู้วิกฤติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ภายหลังจากธนาคาร Silicon Valley Bank ต้องล้มลงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
หุ้นร่วงหนัก
หุ้นของ Credit Suisse ร่วงลงอย่างหนักและเข้าสู่ระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ ที่ 1.73 ฟรังก์สวิสต่อหุ้น ภายหลังจากที่ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง Saudi National Bank (SNB) ระบุว่า จะไม่เพิ่มการลงทุนให้กับ Credit Suisse
ซึ่ง SNB ได้เข้ามาถือหุ้นของ Credit Suisse จำนวน 9.9% เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยทาง Credit Suisse ได้ส่งหนังสือเชิญธนาคารชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อมาร่วมทุนมูลค่ากว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ ควบคู่กับแผนการปลดพนักงานจำนวน 9พันคนภายใน 3 ปี
ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทด้านการลงทุนในสหรัฐฯ อย่าง Harris Associates เปิดเผยว่า ได้มีการเทขายหุ้นของ Credit Suisse ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากรู้สึกผิดหวังกับกลยุทธ์ของทางธนาคารที่ไม่สามารถหยุดยั้งการสูญเสียลูกค้าไปจากประเด็นอื้อฉาวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และธนาคารรายงานผลประกอบการขาดทุนสุทธิถึงกว่า 7.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการขาดทุนที่เกิดขึ้นนี้ นับเป็นการขาดทุนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008
โดยเฉพาะไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 ที่ผ่านมา ธนาคารขาดทุนราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ สูงว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการไว้ นอกจากนี้ยังมีรายงานระบุว่า ลูกค้าของธนาคารไหลออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ในปี 2023 นี้ Credit Suisse น่าจะยังคงเผชิญกับภาวะขาดทุนอย่างหนักต่อเนื่อง
…
เกิดอะไรขึ้นกับ Credit Suisse
Credit Suisse ส่อแววอาการไม่ดีในระยะหลังในหลายเรื่อง โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านทาง ธนาคาร Credit Suisse ได้แจ้งเลื่อนประกาศรายงานประจำปี 2565 ออกไป โดยระบุถึงประเด็นที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นด้านเทคนิคของการประเมินของการแก้ไขงบกระแสเงินสดที่เกิดขึ้นในสิ้นปี 2020 และ 2019
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น หลายฝ่ายมองว่า เป็นความพยายามในการแก้ไขปัญหาอื้อฉาวที่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนและลูกค้า แม้ว่าทาง Credit Suisse จะระบุในแถลงการณ์ว่า รายงานผลกระกอบการในปี 2022 ที่เกิดขึ้นเมื่อ 9 ก.พ. 2022 ไม่กระทบก็ตาม
…
สถานการณ์ไม่ดี-อื้อฉาวต่อเนื่อง
ซึ่งในปีที่ผ่านมา สถานการณ์ของธนาคาร Credit Suisse ไม่ค่อยสู้ดีนัก ต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะในช่วงปี 2021 ธนาคารได้รายงานระบุว่า มีสินทรัพย์ 1.6 ล้านล้านฟรังก์ และมีลูกจ้าง-พนักงานมากกว่า 5 หมื่นคนที่ทำงานให้กับธนาคาร
ในขณะที่เดือนมี.ค. 2021 หน่วยบริหารสินทรัพย์ของ Credit Suisse ต้องสูญเงินในกองทุนการเงิน มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ลงทุนในกับ Greensill Capital และถูกยื่นฟ้องล้มละลาย ก่อนที่จะมีมีข่าวการที่จะต้องสูญเงินอีก 5 พันล้านดอลลาร์จากดีลที่เกิดขึ้นกับ Archegos Capital Management ส่งผลให้ราคาหุ้นในช่วงนั้นตกลงถึง 30%
ในขณะที่เดือนก.พ. 2022 ข้อมูลลูกค้าจำนวนกว่า 3 หมื่นรายของ Credit Suisse รั่วไหลออกมา และกลายเป็นรายงานอื้อฉาว หลังจากที่พบว่า ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ เป็นของลูกค้าที่หาประโยชน์จากการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน การทุจริต รวมถึงอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ อีกเพียบ
รายงานของ The Guardian ในครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของธนาคารและสร้างความกังวลให้กับนักลุงทุนจำนวนมาก แม้ว่าทาง Credit Suisse จะปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม
ก่อนที่ในเดือนมิถุนายน 2022 ศาลอาญาของสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดสินว่า Credit Suisse ล้มเหลวในการป้องกันการฟอกเงินของแก๊งค้ายาของบัลเกเรีย
ตามมาด้วยเดือนตุลาคม 2022 ธนาคาร Credit Suisse ได้ตกลงยอมความและต้องเสียเงินราว 256 ล้านดอลลาร์ ในคดีความเกี่ยวกับการฟอกเงินและหลบเลี่ยงภาษี ในช่วงปี 2005 – 2012 กับฝรั่งเศส
…
ปัญหาเปลี่ยนตัวผู้บริหาร
ในช่วงปี 2019 – 2022 นั้น ธนาคาร Credit Suisse มีการเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงหลายครั้ง โดยในช่วงปี 2019 Pierre-Olivier Bouée ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ถูกระบุว่า ได้จ้างนักสืบเอกชนเพื่อติดตามและสอดส่องพนักงานระดับสูงภายในบริษัท ก่อนที่จะถูกไล่ออกในเวลาต่อมา แต่หลังจากนั้นไม่นาน นักสืบเอกชนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถูกพบว่า “ฆ่าตัวตายอย่างลึกลับ” และประกาศดังกล่าวก็หายไป
ในขณะที่ปี 2020 นาย Tidjane Thiam ซึ่งเป็น CEO ก็มีประเด็นอื้อฉาวอีกครั้ง หลังพบว่า มีการจ้างนักสืบเอกชนติดตามอดีตผู้บริหารที่ย้ายไปร่วมงานกับสถาบันการเงินแห่งอื่น แม้ว่าจะปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องก็ตาม แต่ปัญหาอื้อฉาวที่เกิดขึ้นทำให้ต้องออกจากตำแหน่งในที่สุด
ม.ค. 2022 นาย Antonio Horta-Osorio ที่เข้ามารับตำแหน่งประธานฯ ได้เพียง 9 เดือน ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งหลังมีประเด็นอื้อฉาว เรื่องการละเมิดกฎการกักตัวในช่วงการระบาดของโควิด-19
ในขณะที่ นาย Axel Lehmann ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งต่อ ก็กำลังเผชิญปัญหาการถูกสอบสวนโดย หน่วยงานกำกับดูแลด้านการตลาดการเงินของสวิส (Swiss Financial Market Supervisory Authority : FINMA) ภายหลังจากที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ บลูมเบิร์ก ว่า การไหลออกของลูกค้าที่เกิดขึ้นนั้นได้หยุดลงแล้ว และส่งผลให้มูลค่าหุ้นของ Credit Suisse เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
แต่ในรายงานที่เปิดเผยออกมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลับพบว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 นั้นเกิดขึ้นเกือบ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ โดย FINMA มองว่า คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเจตนาให้นักลงทุนเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคาร
ข้อมูล :
- https://www.credit-suisse.com/about-us-news/en/articles/media-releases/csg-announces-delay-publication-2022-annual-report-202303.tag*article-topic–media-release.html
- https://www.credit-suisse.com/about-us-news/en/articles/media-releases/csg-bod-changes-202201.html
- https://www.credit-suisse.com/about-us-news/en/articles/media-releases/credit-suisse-informs-on-finma-review-202303.html
- https://www.credit-suisse.com/media/assets/corporate/docs/about-us/media/media-release/2023/02/q4-22-press-release-en.pdf