KEY :
- เมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเตรียมคืนบัญชีโซเซียลของโดนัลด์ ทรัมป์อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
- โดยระบุว่า ไม่ต้องการขัดขวางการแสดงความเห็นตามระบอบประชาธิปไตยบนแพลตฟอร์มของบริษัท และประชาชนควรได้ยินในสิ่งที่นักการเมืองสื่อสารออกมา ไม่ว่าดีหรือไม่ดีก่อนตาม เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกตั้ง
- นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงมาตรการใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาในการจัดการต่อการละเมิดกฎของชุมชนด้วย เช่น การลดการเผยแพร่ข้อความเสี่ยงต่าง ๆ การระงับการโฆษณา รวมถึงการระงับบัญชีด้วย
…
บริษัทเมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม เตรียมที่จะกลับมาเปิดบัญชีคือให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกครั้ง ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่ได้มีการปิดบัญชีของทรัมป์ ไปราว 2 ปี จากเหตุจราจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อปี 2564
โดยทางเมตาได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า สื่อสังคมออนไลน์นั้นมีรากฐานมาจากความเชื่อในเรื่องของการถกเถียงอย่างเปิดเผย และการแสดงออกอย่างเสรี ซึ่งเมตา ไม่ต้องการที่จะขัดขวางต่อการแสดงออกอย่างเปิดเผยในพื้นที่สาธารณะ และเป็นประชาธิปไตย บนแพลตฟอร์มของเมตา และประชาชนควรที่จะได้ยินในสิ่งที่นักการเมืองเหล่านี้ สื่อสารออกมา ทั้งดีและไม่ดี เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลในการตัดสินที่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในอนาคต
ซึ่งเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศที่จะกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกครั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในปี 2567
การปิดบัญชีโซเซียลมีเดียวของทรัมป์ เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน หลังมีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ได้ออกมารวมตัวกัน และลุกลามกลายเป็นเหตุจราจล บุกเข้าไปยังอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯ ทำให้แพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียวต่า งๆ ได้พร้อมใจกันระงับบัญชีของทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ ยูทูป รวมถึงเฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรมด้วย
โดยแพลตฟอร์มทั้งหมดระบุเหตุผลว่า ข้อความของทรัมป์ ที่สื่อสารออกไปนั้น ละเมิดกฎของชุมชนและเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นได้ จากข้อความต่าง ๆ ที่ทรัมป์ได้โพสต์ลงไป ไม่ว่าจะเป็นประเด็นของการอ้างว่า มีการโกงคะแนนการเลือกตั้ง การยุยงให้ประชาชนออกมารวมตัวกันประท้วง หรือถ้อยคำต่าง ๆ อีกหลายข้อความ และทำให้บรรดาผู้สนับสนุนของทรัมป์ นำไปสื่อสารหรือเผยแพร่ต่อเพื่อยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย
ในแถลงการณ์ของเมตาในครั้งนี้ ยังได้กล่าวถึงมาตรการฉบับใหม่เกี่ยวกับการจัดการเนื้อหาที่ไม่ละเมิดมาตรฐาน แต่การกระจายข้อความเหล่านั้นมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 6 มกราคม 2564 เช่น ข้อความที่ทำลายความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้ง หรือ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ QAnon ซึ่งหมายถึงกลุ่มผู้สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดที่เชื่อว่า ทรัมป์กำลังทำสงครามกับกลุ่มผู้ที่มีความไคร่กับเด็ก ที่บูชาซาตาน และแฝงตัวอยู่ในชนชั้นนำของสหรัฐฯ เป็นต้น
โดยแนวทางการจัดการใหม่นี้ อาจจะเป็นการลดการกระจายของข้อความเหล่านั้นเป็นการชั่วคราว รวมถึงการจำกัดการโฆษณาผ่านระบบของเมตาด้วย เช่น การปิดปุ่มแชร์ในโพสต์ที่ผิดกฎเหล่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติม เช่น การระงับบัญชีในช่วงเวลา 6 เดือน – 2 ปี สำหรับบัญชีที่กระทำผิดกฎของชุมชนด้วย
ที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเมตา เผชิญกับข้อครหาจำนวนมาก ถึงการเพิกเฉยต่อการดำเนินการใด ๆ กับข้อความที่สร้างความเกลียดชัง เช่น ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาจากเมียนมา ยื่นฟ้องบริษัทเมตา เป็นเงินกว่า 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้มีการเผยแพร่ข้อความที่สร้างความเกลียดชังต่อชาวโรฮิงญา และนำไปสู่การเกิดความรุนแรงแก่ชาวโรฮิงญาในเมียนมาด้วย
หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศบราซิล ที่มีผู้ก่อความวุ่นวายบุกอาคาร สถานที่ราชการ ประท้วงการเลือกตั้งซ้ำรอยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐฯ
ที่มา – https://about.fb.com/news/2023/01/trump-facebook-instagram-account-suspension/
