นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวกรณีโครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 33 ล้านบาทนั้น ได้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด หรือผู้ได้รับมอบหมาย จากหน่วยงานของรัฐผู้ใด โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือไม่ จากราคา 33 ล้านบาทนี้เทียบได้กับราคาบ้านหรู จำนวน 1 หลังที่สร้างในพื้นที่จำนวนหลายไร่ ถือว่ามีการใช้งบประมาณที่สูงมาก จึงได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรครวบรวมหลักฐานจากภาคส่วนต่าง ๆ เกี่ยวกับการเสนอราคา และวิธีการประมูล เพื่อยื่นแจ้งข้อกล่าวหาต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในวันอังคารหน้า (10 ม.ค. 66) ต่อไป
พร้อมฝากข้อสังเกตและขอเสนอแนะกับรัฐบาลว่า กระทรวงคมนาคมควรนำงบประมาณจำนวนดังกล่าว มาปรับปรุงขบวนรถไฟให้ทันสมัยมากขึ้น หรือนำมาปรับปรุงพื้นที่ภายในสถานีรถไฟให้สอดคล้องกับการอำนวยความสะดวกของประชาชนทั่วไป และการใช้งานของคนพิการให้มากขึ้น หรือนำงบประมาณจำนวนดังกล่าวมาช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความยากจนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้