KEY :
- ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวานที่ผ่านมา มีจำนวน 420 ราย สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19
- ในขณะที่ยอดผู้ป่วยรายใหม่แม้จะลดลง แต่ยังคงเกือบ 2 แสนราย หลังทำนิวไฮเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา กว่า 2.16 แสนราย
- ผู้เชี่ยวชาญคาด หลังวันหยุดปีใหม่ ยอดน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
- ทางด้านรัฐบาลญี่ปุ่น ประเมินแผนการปรับลดระดับความรุนแรงของโรค จากระดับ 2 เหลือระดับ 5 เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่
…
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มที่ค่อนข้างสูง โดยยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เมื่อวานที่ผ่านมา ( 29 ธ.ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 420 ราย ทำสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น โดยเพิ่มสูงขึ้นจากรายงานของวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 415 ราย
ในขณะที่ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในญี่ปุ่นวานนี้อยู่ที่ 192,063 ราย ลดลงจากเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่มีการพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 216,219 ราย ซึ่งถือเป็นยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือต้องใช้เครื่อง ECMOs มีจำนวนทั้งหมด 565 ราย ลดลง 12 ราย
เตรียมรับมือหลังวันหยุดปีใหม่
ทางด้านของผู้เชี่ยวชาญในญี่ปุ่นคาดว่า ในช่วงหลังเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นน่าจะขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเดินทางไปต่างจังหวัด หรือกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุด มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
โดยสายการบินในประเทศถูกจองเต็มเป็นส่วนใหญ่ คาดว่าจะมีผู้ที่เดินทางด้วยเครื่องบินในเที่ยวบินในประเทศมากกว่า 1.7 แสนคน
สำหรับรถไฟ ซึ่งเป็นการขนส่งหลักที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นนิยมใช้บริการนั้น ในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 65 ถึง 5 ม.ค. 66 นั้นมียอดจากเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนราว 15%
อย่างไรก็ตาม การเดินทางที่เกิดขึ้นยังคงต่ำกว่าในช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของโควิด-19 เมื่อหลายปีก่อนค่อนข้างมาก
ยาบางชนิดเริ่มขาดตลาด
ในขณะที่การระบาดที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว ส่งผลให้ยาบางชนิดสำหรับให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวที่บ้านเริ่มลดน้อยลง โดยคลินิกต่าง ๆ ในโตเกียว พบว่า มีจำนวนผู้ป่วยที่ขอรับยาเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น
ผู้ป่วยบางรายเดินทางขอรับบริการ เนื่องจากสงสัยว่า เป็นโควิด-19 แต่เมื่อตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่พบว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มการพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
โดยทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเบา และผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ นั้นมีความต้องการในการใช้ยาเช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ หรือแก้คัดจมูก ส่งผลให้ร้านขายยาบางแห่งขาดสต็อก และยังไม่ได้รับการจัดส่งเพิ่มเติม
การปรับลดระดับความรุนแรงของโรค
แม้ว่า การระบาดในญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แต่ในขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้พิจารณาการจัดระดับความรุนแรงของโรคโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระดับที่ 2 จาก 5 ระดับ ซึ่งคาดว่า ในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีหน้า จะมีการปรับลดระดับความรุนแรงของโรคลงเป็น ระดับที่ 5 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ยังคงให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดในระลอกที่ 8 ในขณะนี้ ที่ยังคงมียอดผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตที่ค่อนข้างสูง
ซึ่งเหตุผลที่รัฐบาลญี่ปุ่น จำเป็นต้องลดระดับลงมานั่น เนื่องจากเป้าหมายของการระบบสาธารณสุขของประเทศยังคงเผชิญกับความตึงเครียดที่ต้องแบกรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ควบคู่กับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น และหากมีการปรับระดับความรุนแรงลงมาอยู่ในระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ จะสามารถควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ การปรับลดระดับความรุนแรง ยังคงสามารถทำให้ญี่ปุ่นสามารถเดินหน้านโยบายต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากขึ้น และต้องการให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ระดับความรุนแรงของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังคงมีความกังวลต่อความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นจากการกลายพันธุ์ของเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการปรับระดับของโรคอย่างค่อยเป็นค่อยไป