KEY :
- รัสเซียออกกฤษฎีกา ไม่จำหน่ายน้ำมันให้กับประเทศ หรือบริษัทที่ปฏิบัติตามมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย โดยจะมีผลตั้งแต่ 1 ก.พ. – 1 ก.ค. 2566
- กฤษฎีกาดังกล่าว มีข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษไว้ สามารถจำหน่ายให้กับประเทศ – บริษัทได้ หากปูตินอนุญาต
…
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ออกกฤษฎีกาฉบับใหม่เมื่อวานที่ผ่านมา (27 ธ.ค. 65) โดยจะระงับการจำหน่ายน้ำมันให้แก่ประเทศ หรือบริษัทที่ปฏิบัติตามมาตรการการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย
โดยกฤษฎีกาดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 1 ก.ค. 2566 อย่างไรก็ตามกฤษฎีกาฉบับนี้ ได้เปิดช่องทางข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษไว้ให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตัดสินใจที่จะยกเลิกให้กับบางประเทศ หรือบริษัทได้
ซึ่งประกาศฉบับนี้ออกมาเพื่อตอบโต้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย ที่กลุ่มชาติ G7, สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ได้ตกลงในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาเรล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยได้จำกัดเฉพาะกรณีของน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งทางเรือเป็นหลัก
รัสเซียมุ่งตลาดเอเชียแทน
ที่ผ่านมา จากมาตรการการคว่ำบาตรของยุโรป เพื่อตอบโต้ต่อรัสเซียที่ได้เปิดฉากการโจมตีต่อยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา ทำให้รัสเซียได้มองหาลูกค้ารายใหม่ในตลาดเอเชียมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะทั้งจีน และอินเดีย ซึ่งกลายมาเป็นลูกค้าที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น
และรัสเซียก็ได้มีการจำหน่ายน้ำมันดิบและก๊าซ ให้กับประเทศต่าง ๆ ในราคาพิเศษ ซึ่งรัสเซียระบุว่า จะสามารถหาผู้ซื้อรายใหม่ได้ไม่ยาก และไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจในยูเครนแต่อย่างใด
เตรียมรับมือราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า ภายหลังจากที่รัสเซียดำเนินมาตรการนี้ ตามคำกล่าวที่ได้กล่าวไว้ทันทีที่มีการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียนี้ จะส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัสเซียถือเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
ซึ่งแม้ว่า ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า ราคาน้ำมันดิบที่ 60 ดอลล่าร์/บาเรลนั้น จะส่งผลกระทบไม่มากนักต่อรัสเซียก็ตาม เนื่องจากราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบรัสเซียอยู่ที่ราว 65 ดอลลาร์/บาเรลเท่านั้น แต่การที่รัสเซียดำเนินมาตรการระงับการส่งออกแก่ประเทศที่กำหนดเพดานน้ำมันรัสเซียนั้น จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก
โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน รัสเซียได้ประกาศว่า อาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 500,000-700,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งทำให้ตลาดโลกส่งสัญญาณราคาน้ำมันก็ปรับขึ้นราคาราว 1 ดอลลาร์/บาเรล เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา
