สถาบันเพื่อการวัดผลและประเมินผลด้านสุขภาพ แห่งวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ของสหรัฐฯ หรือ “IHME” ระบุว่า จากการยกเลิกข้อจำกัดอันเข้มงวดของจีน ในการควบคุมการระบาดของโควิดอย่างกระทันหัน ไม่มีแบบแผน อาจส่งผลให้การกระทำที่ผ่านมาไร้ความหมาย และยังอาจทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านคนภายในปี 2566
ผู้อำนวยการ “IHME” คาดการณ์ว่า ภายในวันที่ 1 เมษายนปีหน้า ผู้ติดเชื้อโควิดในจีนจะทำสถิติสูงสุด โดยประชากรจีนราว 1 ใน 3 จะติดเชื้อ และจะมีผู้เสียชีวิตถึง 322,000 ราย
และนับตั้งแต่รัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการคุมโควิดที่เข้มข้น หน่วยงานด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน ก็ไม่ได้มีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากโควิดอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ซึ่งครั้งล่าสุดคือวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา มียอดรวมผู้เสียชีวิตจากโควิดแล้ว 5,235 ราย
ขณะเดียวกันก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจีนจะยึดติดกับนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” หรือ “Zero Covid” ยาวนานเช่นนี้ โดยนโยบายดังกล่าวอาจช่วยป้องกันการระบาดของโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ได้ แต่กับสายพันธุ์โอมิครอน การป้องกันแบบเก่า ๆ อาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ คาดการ์ว่าในที่สุดแล้ว ประชากรจีนราว 60% จะติดเชื้อทั้งหมด โดยตัวเลขจะพุ่งสูงสุดในเดือนมกราคมซึ่งกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวมาก่อน ที่ทำให้เกิดความกังวลอย่างหนัก เพราะจีนมีกลุ่มเปราะบางจำนวนมาก ใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่ำ ขณะที่กลุ่มบุคคลที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป ก็เข้ารับวัคซีนต่ำอีกด้วย