KEY :
- มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์เรื่องของหญิงไร้บ้านท้องแก่ใกล้คลอดรายหนึ่ง
- ซึ่งเจอกับหน่วยงานปฏิเสธไม่รับเข้าดูแล โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถจะรับเคสคนไร้บ้านตั้งครรภ์คนนี้เข้าสู่การดูแลได้ เนื่องจากเขาเป็นคนไร้บ้าน
…
นับเป็นอีกหนึ่งเคสผู้ป่วยข้างถนนที่เรื่องราวน่าสะเทือนใจ กรณี “มูลนิธิกระจกเงา” โพสต์เล่าเรื่องราวหญิงท้องแก่ใกล้คลอด ซึ่งเป็นคนเร่ร่อนไร้บ้านรายหนึ่ง ถูกหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ปฏิเสธไม่รับดูแล
เนื้อหาระบุว่า “วันพ่อที่อยากเล่าเรื่องของคนเป็นแม่” เย็นวันหนึ่งในอาทิตย์ก่อน ทางทีมผู้ป่วยข้างถนนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบคนเร่ร่อนไร้บ้านเป็นผู้หญิงตั้งครรภ์กลับมาอีกครั้งแล้ว ที่ว่าเจออีกครั้งเพราะตัวคนไร้บ้านคนดังกล่าวหายไป และทางเราได้ลงพื้นที่ติดตามหลายครั้งแต่ไม่พบ ครั้งนี้เราจึงรีบลงด่วนที่สุดทันที
ด่วนที่สุดเพราะเธอตั้งครรภ์ ครรภ์นั้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 7-8 เดือนแล้ว และไม่แน่ใจว่าเธอเองจะมีความสามารถ ในการดูแลครรภ์ตัวเองต่อไปได้ดีแค่ไหน เมื่อเราลงพื้นที่พบเจอเธอ เราได้เข้าไปพูดคุย เพื่อทำการเช็คอาการจิตเวชเบื้องต้น แต่ไม่พบว่าเธอมีอาการจิตเวช
เราจึงเริ่มคุยกับเธอ เธอเล่าว่า เธออยู่กับแฟนที่ใช้ชีวิตไร้บ้านเช่นกัน และบางครั้งต้องหลบออกมาอยู่ที่อื่น เพราะแฟนเธอทำร้ายร่างกาย ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ข้อมูลสำคัญที่เธอเล่าก็คือ มีคนใจดีแถวนั้นพาเธอไปโรงพยาบาล หมอบอกเธอตั้งครรภ์ได้ 36 สัปดาห์ (9เดือน) และเด็กนั้นกลับหัวแล้ว
36 สัปดาห์ และเด็กกลับหัวแล้ว นัยยะก็คือเธอจะคลอดแล้วแน่นอนไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้ เราจึงเริ่มคุยกับเธอ ทำความเข้าใจกับเธอว่า เธอควรถูกดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกว่า “บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพ” เธอตกลงว่าเธอจะเข้าสู่การดูแลนั้น เราจึงรีบประสานงานไปทันที
เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กรับสาย เราแจ้งข้อมูลของตัวเคสคนไร้บ้านที่ตั้งครรภ์ไปทั้งหมด รวมถึงเราประเมินเบื้องต้นแล้วว่า ไม่มีปัญหาจิตเวชอย่างแน่นอน ทางเจ้าหน้าที่มีคำถามที่ทำให้เราต้องอึ้งอยู่เหมือนกัน เจ้าหน้าที่ถามเรามาว่า “แล้วค่าใช้จ่ายเรื่องท้องจะทำอย่างไร” และตามมาด้วยประโยคที่ว่า “ขอไปปรึกษาผู้บังคับบัญชาก่อนว่าจะเอาอย่างไร” แล้วก็วางสายไป
ในช่วงค่ำทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก โทรกลับมาหาทางทีมงานผู้ป่วยข้างถนนอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่า “ไม่สามารถจะรับเคสคนไร้บ้านตั้งครรภ์คนนี้เข้าสู่การดูแลได้ เนื่องจากเขาเป็นคนไร้บ้าน” แต่ถ้าเป็นเคสคนท้องที่มีบ้าน และมีปัญหาครอบครัวเขาถึงจะเข้ามาดูแล และบอกกับทางทีมงานผู้ป่วยข้างถนนว่า ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจะประสานกับทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งให้ เนื่องจากเคสเป็นคนไร้บ้าน
เมื่อหน่วยงานภายใต้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พูดคุยกันเอง เราจึงติดตามการปฏิบัติงานของทั้งสองหน่วยงานในช่วงเช้าของอีกวัน เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กคนเดิมบอกกับเราว่า ให้เราไปตามกับทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เคสเป็นคนไร้บ้าน (แม้ว่าท้อง 9 เดือน และเด็กกับหัวแล้วด้วย) ไม่ใช่บทบาทหน้าที่ผม และไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องตามข้อมูลให้คุณ ให้ไปตามข้อมูลกับทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเองได้เลย
ทางทีมผู้ป่วยข้างถนนจึงประสานไปยัง ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งให้ข้อมูลว่า ทางผู้หญิงคนไร้บ้านที่ตั้งครรภ์นั้น ตอนนี้ไม่อยู่ในพื้นที่แล้ว ด้วยเหตุเพราะเขาปวดท้องจะคลอดลูก เลยมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง และทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกำลังจะทำการติดตามเคสดังกล่าวไปที่โรงพยาบาล เราขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองฯ และขออนุญาตติดตามผลหลังจากไปติดตามเคสดังกล่าวที่โรงพยาบาล
“ผู้หญิงตั้งครรภ์ 9 เดือนคนหนึ่ง มีสถานะไร้บ้าน ต้องมาเจ็บท้องคลอดโดยไม่มีหน่วยงานรัฐใดที่เข้ามาดูแล ไม่ต้องย้อนไปถึงการเข้ามาดูแลก่อนที่เธอจะคลอด ตอนนี้เธอมีสถานะแม่เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นแม่ที่อยู่ในสถานะคนเปราะบางทางสังคม คนท้องและคนเปราะบางทางสังคมคนหนึ่ง ที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องที่สุด อย่างบ้านพักเด็กและครอบครัว บอกว่าไม่ใช่ภารกิจของเขาอย่างเต็มปากเต็มคำ” มูลนิธิกระจกเงา ระบุ