นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ และผู้ก่อตั้งพรรคโอกาสไทย จะไปร่วมทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายมิ่งขวัญ เป็นผู้มีความสามารถ ครั้งที่แล้วเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ได้แสดงวิสัยทัศน์และได้ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว 6-7 คน ก็ต้องถือว่าไม่ธรรมดา ซึ่งตนเคยไปฟังการแสดงวิสัยทัศน์เรื่องเศรษฐกิจก็ถือว่าทำได้ดี หากมาช่วยในพรรคพปชร.ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี หากมีโอกาสได้เข้ามาทำงานรับใช้บ้านเมือง
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยมีทีมเศรษฐกิจเข้ามาสู้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าสู้ เพราะทุกคนก็มีความรู้และความสามารถในการทำงานร่วมกัน พรรคภูมิใจไทยทำงานแบบแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างมาโดยตลอด และพรรคจะให้ความร่วมมือกับทุกภาคการเมืองใครเสนออะไร หากดูแล้วว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนเราจะไม่มีข้อสงสัย แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นฝ่ายถูกกระทำมากกว่า
เมื่อถามถึงกรณีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ได้พูดบนเวทีปราศรัยของพรรคภูมิใจไทยที่จังหวัดนครพนม โดยพรรคก้าวไกลเตรียมร้องเรื่องจริยธรรมเกี่ยวกับเรื่องการใช้คำพูดหยาบคายและดูถูกส.ส. นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามเจ้าตัว เพราะเป็นถึงรองประธานสภา และตอนที่ท่านพูดตนก็ไม่ได้อยู่ดังนั้นต้องไปถามว่าในขณะนั้นคิดอะไรขอให้ท่านได้เป็นผู้อธิบายเอง ไม่มีใครอธิบายได้ดีเท่าตัวเอง แต่หากถามว่าพรรคภูมิใจไทยเลือกปฏิบัติหรือไม่ ยืนยันว่าความรับผิดชอบความรับผิดชอบใน 3 กระทรวงสาธารณสุขคือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะทำงานครบ 4 ปี ด้วยเจตนารมณ์ รับใช้ประเทศและประชาชนไม่เลือกไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง เป็นภาพของคนไทยทุกคนแม้นว่าจะเลือกหรือไม่ก็ตาม
และวันนี้มาทำหน้าที่ในรัฐบาลจะบอกว่าดูแลเฉพาะคนที่เลือกพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้ มันไม่เคยอยู่ในหัวและความคิด ส่วนการฟ้องร้องเรื่องจริยธรรมนั้น เป็นเรื่องของคู่กรณีก็ให้เป็นไปตามกฎหมายไม่มีปัญหา
เมื่อถามย้ำว่าในส่วนของหัวหน้าพรรคมีการเตือน การใช้คำพูดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ละคนเป็นส.ส.เป็นรัฐมนตรีขาวก็มีวุฒิภาวะของเขาอยู่แล้ว ใครพูดใครทำอะไร ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองและการกระทำเหล่านั้น.