คัดลอก URL แล้ว
รัสเซียปฏิเสธ ไม่ยอมรับ “เพดานราคาน้ำมัน” ของอียูและ G-7

รัสเซียปฏิเสธ ไม่ยอมรับ “เพดานราคาน้ำมัน” ของอียูและ G-7

KEY :

หลังจากที่เมื่อวานที่ผ่านมา ( 3 ธ.ค.) ทางสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียอยู่ที่ 60 ดอลลาร์/บาเรล สำหรับน้ำมันรัสเซียที่ขนส่งผ่านทางเรือ โดยระบุว่า เพื่อเป็นการตัดรายได้ของรัสเซียในการที่จะนำเงินจากการขายน้ำมันไปใช้เป็นทุนในการโจมตียูเครน และจะเริ่มจำกัดเพดานราคาน้ำมันในวันพรุ่งนี้ ( 5 ธ.ค.)

ซึ่งภายหลังจากมีการประกาศกำหนดเพดานราคาน้ำมันของทั้งสหภาพยุโรป และกลุ่ม G-7 รวมถึงออสเตรเลียในครั้งนี้ ทางด้านของ Dmitry Peskov โฆษกเครมลิน ได้ระบุว่า

ในขณะนี้ รัสเซียยังอยู่ในระหว่างการประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ โดยมีการเตรียมดำเนินมาตรการบางอย่างต่อการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียไม่ยอมรับการกำหนดเพดานในครั้งนี้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้น หากได้ข้อสรุปถึงมาตรการใด ๆ จะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลัง

ซึ่งก่อนหน้านี้ รัสเซียได้เคยประกาศว่า หากมีมาตรการในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียแล้ว รัสเซียก็จะไม่จำหน่ายน้ำมันให้กับชาติที่มีการกำหนดเพดานราคาน้ำมัน

ผลที่เกิดขึ้นภายหลังอียูประกาศเพดานราคาน้ำมัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่ม G-7, สหภาพยุโรป และออสเตรเลียประกาศจะดำเนินการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียนั้น ทำให้บริษัทประกันภัย และบริษัทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งน้ำมันของรัสเซียจำเป็นจะต้องอิงกับราคาที่กำหนดไว้ เนื่องจากบริษัทประกันส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในสหภาพยุโรป และ สหราชอาณาจักร

ทางด้านของผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันส่งสัญญาณในการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการจัดส่งน้ำมันของรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น เพื่อหาทางเลี่ยงหรือลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียที่จะเริ่มมีผลในวันที่ 5 ธ.ค. นี้

ซึ่งบริษัทในสหภาพยุโรปไม่ว่าจะเป็น บริษัทประกันภัย นายหน้า หรือความช่วยเหลืออื่น ๆ จะอ้างอิงจากราคาเพดานที่กำหนดไว้ หรือต่ำกว่าเท่านั้น และหากการจัดซื้อน้ำมันรัสเซียในราคาที่สูงกว่า ก็จะไม่ได้รับการบริการใด ๆ เพิ่มเติม จึงทำให้บริษัทขนส่งหลายรายได้รับผลกระทบที่จะต้องจัดเก็บค่าดำเนินการเพิ่มขึ้น และราคาก็มีความผันผวนอย่างมาก และยังส่งผลให้เรือบรรทุกน้ำมันที่จะยังคงขนส่งน้ำมันรัสเซียลดลงอีกด้วย

หลายฝ่ายกังวล ราคาน้ำมันจะผันผวนและสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมีความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หากรัสเซียประกาศไม่ขายน้ำมันให้กับชาติที่ร่วมกำหนดเพดานราคาน้ำมันนั้น จะส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสุงขึ้น และผันผวนมากขึ้น

ในขณะที่ สหภาพยุโรปอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น หากต้องจัดหาจากแหล่งผลิตใหม่ ๆ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ราว 85 ดอลลาร์ต่อบาเรล ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบรัสเซียนั้นอยู่ที่ราว 65 ดอลลาร์ต่อบาเรล

อย่างไรก็ตาม ทางด้านของยูเครนได้แสดงท่าทีที่ไม่ค่อยพอใจกับมาตรการดังกล่าวเท่าใดนัก เนื่องจากยูเครนมองว่า ราคาที่กำหนดไว้นั้นต่ำกว่าราคาเฉลี่ยเพียง 5 ดอลลาร์ต่อบาเรลเท่านั้น และจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับรัสเซียมากนัก ซึ่งยูเครนต้องการให้กำหนดเพดานน้ำมันรัสเซียอยู่ที่ 30 ดอลลาต่อบาเรลเท่านั้น และเป็นอัตราเดียวกับที่โปแลนด์ได้เสนอต่อสหภาพยุโรป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง