KEY :
- กระทรวงการค้าฯ ของเกาหลีใต้ระบุว่า มูลค่าการส่งออกของประเทศลดลง 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
- มูลค่าการนำเข้าสูงขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้าพลังงงานจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้น จากสถานการณ์ในยูเครน ควบคู่กับค่าเงินวอนที่อ่อนค่าลง
- ส่วนการส่งออกชิป-เซมิคอนดักเตอร์ลดลง โดยเฉพาะที่ส่งไปจีน-อาเซียน
- ส่งผลให้เกาหลีใต้เผชิญปัญหาการขาดดุลการค้าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997
- ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น กระทบเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่การประท้วงหยุดงานของกลุ่มผู้ขับรถบรรทุกส่งสินค้า ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน
- ซึ่งในขณะนี้ ทำให้หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงปั๊มน้ำมันจำนวนกว่า 30 แห่ง ไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงจำหน่าย
…
กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้รายงาน ได้รายงานสถานการณ์นำเข้าส่งออกของประเทศเกาหลีได้ โดยระบุว่า การส่งออกของเกาหลีใต้ลดลงถึง 14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และลดลงจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 5.7% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกันแล้ว
โดยในรายงานระบุว่า การส่งออกสินค้าไปยังจีนนั้นลดลงถึง 25.5% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และเป็นการลดลงสูงที่สุดในรอบ 10 ปี และการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียนก็ลดลง 13.9% ด้วยเช่นกัน ส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8% และยุโรปเพิ่มขึ้น 0.1%
ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าของเกาหลีใต้นั้นเพิ่มสูงขึ้นเป็นมูลค่า 5.89 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มสูงขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเกาหลีใต้ระบุว่า เป็นผลมาจากราคาพลังงานในตลาดโลกที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งมูลค่าการส่งออกสินค้าของเกาหลีใต้อยู่ที่ 5.19 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เกาหลีใต้ขาดดุลการค้าในขณะนี้ราว 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นการขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ที่เกาหลีใต้เผชิญการขาดดุลการค้าติดต่อกันนานต่อเนื่องเช่นนี้
เกาหลีใต้พึ่งพาการนำเข้าพลังงานส่วนใหญ่จากต่างประเทศ โดยมูลค่านำเข้าพลังงานในเกาหลีใต้คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.55 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 27.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ในยูเครนหลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตียูเครน ทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้น ร่วมกับสถานการณ์ค่าเงินวอนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
การส่งออกชิปลดลง
จากสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลาย ๆ ประเทศส่งผลกระทบต่อความต้องการชิปลดง ซึ่งทำให้การส่งออกชิป – เซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
โดยการส่งออกชิปนับเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของเกาหลีใต้นั้นลดลงถึง 29.8% คิดเป็นมูลค่าราว 8.45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากความต้องการชิปลดลง ร่วมกับราคาชิปในตลาดปรับตัวลดลง ในขณะที่สินค้าส่งออกชนิดอื่นเช่น สินค้าในกลุ่มปิโตรเคมี ลดลง 26.5%, สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กลดลง 10.6%
ส่วนสินค้าในกลุ่มยานยนต์สามารถส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น 31% โดยทั้ง KIA, GM Korea, Hyundia ระบุว่า มียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ภาคขนส่งประท้วงหยุดงาน กระทบหนัก
จากราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางสภาวะเงินเฟ้อในเกาหลีใต้ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีการประท้วงนัดหยุดงานของผู้ขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้เป็นวงกว้างมากขึ้น โดยเรียกร้องให้รัฐบาลปรับราคาอัตราค่าขนส่งขั้นต่ำให้สูงขึ้น เพื่อสอดคล้องกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
การประท้วงที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะปั๊มน้ำมันที่กว่า 30 แห่งที่ต้องปิดให้บริการเนื่องจากไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงจำหน่ายให้กับประชาชน เนื่องจากไม่มีรถบรรทุกนำส่งน้ำมันมายังปั๊ม
โดยทางรัฐบาลพยายามเรียกร้องให้กลุ่มผู้ขับรถบรรทุกขนส่งหยุดการประท้วงและกลับไปปฏิบัติงานตามปรกติ ซึ่งการนัดหยุดงานในกลุ่มผู้ขับรถบรรทุกปูน เหล็ก รถยนต์ และน้ำมันที่เกิดขึ้น คาดว่า ส่งผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.23 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งในขณะนี้ ทางการเกาหลีใต้กำลังประเมินสถานการณ์และมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้มีการให้นำรถบรรทุกน้ำมันของกองทัพบางส่วนมาแก้ไขปัญหาเป็นการเฉพาะหน้า เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจากกว่า 23 ปั๊มที่หยุดให้บริการนั้น เป็นปั๊มขนาดใหญ่