KEY :
- อีลอน มัสก์ เจ้าของทวิตเตอร์ระบุว่า จำเป็นต้องปลดพนักงานถึง 50% ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น
- โดยที่ผ่านมาทวิเตอร์ขาดทุนสะสมกว่าวันละ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อวัน
- นอกจากนี้ พนักงานที่โดนปลดจะได้รับค่าชดเชยจำนวน 3 เดือน ซึ่งมากกว่ากฎหมายกำหนดไว้ด้วย
…
อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ที่เพิ่งเข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ชี้แจงถึงกรณีที่เขาต้องปลดพนักงานของทวิตเตอร์ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่น เพราะทวิตเตอร์กำลังประสบปัญหาขาดทุนวันละมากกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 150 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาทวิตเตอร์ประสบปัญหาขาดทุนติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี ขณะที่ยอดผู้ใช้งานก็ไม่ได้เติบโตขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ได้เริ่มขั้นตอนการปลดพนักงานตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยพนักงานแต่ละคนจะได้อีเมล์แจ้งว่าตนจะได้ทำงานกับทวิตเตอร์ต่อหรือไม่ ซึ่งทางทวิตเตอร์ได้ให้เหตุของการปลดพนักงานครั้งใหญ่ครั้งนี้ว่า เป็นการให้ทวิตเตอร์เดินหน้าไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องและลดต้นทุน โดยการปลดพนักงานดังกล่าวจะทำให้มีพนักงานทวิตเตอร์ถูกปลดราว 3,700 คนจากพนักงานทั้งหมดราว 8,000 คน
ล่าสุด ทวิตเตอร์ได้ถูกยื่นฟ้องจากการปลดพนักงานทวิตเตอร์ โดยไม่ได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งถือการกระทำดังกล่าวละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และกฎหมายรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นายจ้างจะต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบก่อนถูกเลิกจ้างภายในเวลาอย่างน้อย 60 วัน
ขณะที่มัสก์ได้ระบุว่า พนักงานทวิตเตอร์ที่ถูกปลดจะได้รับเงินชดเชย 3 เดือน ซึ่งถือเป็นเงินที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนดด้วยซ้ำ
