จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา นายศุภโชค ศุภบัณฑิต นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ พร้อมนายปัจจุคมน์ เจริญรัชต์ ทนายความ ที่เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีที่คุณพ่อวัย 75 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความและนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถูกกลุ่มบุคคลที่น่าจะเป็นขบวนการเข้ามาหลอกลวง จนทำให้สูญเสียทรัพย์สินไปแล้วประมาณ 50 ล้านบาทตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 25 ต.ค. 65 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน กทม. “ลินดา” หญิงไฮโซ หรือ ชื่อจริงน.ส.ศรัญญา อุปปาตะสันติ หรือ “หญิงไก่” อายุ 65 ปี ประธาน บริษัทวังหิน เรสสิเดนซ์ จำกัด และ บริษัท เขาใหญ่ สวีท จำกัด พร้อมด้วยนายเกียรติคุณ ต้นยาง “ทนายโป้ง” เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รอง.ผกก.1บก.ป. เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานชี้แจงความบริสุทธิ์ กรณีที่ถูกนายศุภโชค ศุภบัณฑิต บุตรชายของนายสุรชัย ศุภบัณฑิต สามีของตนที่จดทะเบียนสมรสด้วยกัน เข้าร้องกองปราบฯ ให้ตรวจสอบพฤติการณ์การแต่งงานจดทะเบียนสมรถ ก่อนจะโอนทรัพย์สินไปรวม 50 ล้านบาท
นายเกียรติคุณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากประเด็นที่ได้มีลูกชายของคุณสุรชัย มาร้องขอความเป็นธรรมและก็มีการเผยแพร่ไปตามสื่อต่างๆ วันนี้หญิงไก่มีพยานหลักฐาน ที่จะมาชี้แจงและร้องขอความเป็นธรรมกับทางกองปราบว่าสิ่งที่ทางอีกฝ่ายมาร้องเรื่องของนายสุรชัย ว่าไม่เป็นความจริงและยังมีข้อเท็จจริงที่ทางเราจะเสนอต่อกองปราบ เพื่อให้กองปราบช่วยพิจารณาว่าเรื่องที่ไม่จริงนั้นคนที่รู้เรื่องที่สุดก็คือนายสุรชัย ทางหญิงไก่อยากจะเรียกร้องผ่านสื่อว่านายสุรชัย รับทราบหรือมีโอกาสได้ดูข่าวขอให้ออกมาพูดความจริง เพราะสิ่งที่หญิงไก่ สงสัยคือทำไมนายสุรชัย ไม่ออกมาพูด และประเด็นสำคัญในวันนี้คือ ต้องการเรียกร้องกองปราบ ให้ช่วยติดตามนายสุรชัยออกมาพูดความจริง ว่าสิ่งที่ลูกกับสิ่งที่หญิงไก่พูด ใครกันแน่คือคนที่พูดความจริง และ หากท้ายที่สุดแล้ว ไม่สามารถที่จะพูดคุยกันได้ก็คงจะต้องพึ่งที่ศาลยุติธรรมให้เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยว่า ใครที่ผิด หรือถูก
นายเกียรติคุณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้หญิงไก่มีความเครียดและ ความกังวล จากการที่ถูกกล่าวหาและถูกขุดประวัติเก่า ทุกคนมีโอกาสผิดพลาดกันได้แต่เรื่องเก่าๆ ในอดีต ศาลพิพากษาไปแล้วสังคมก็ควรจะให้โอกาส เรื่องผิดถูกจบไปแล้วเพราะฉะนั้นวันนี้มาขอความเป็นธรรม ขอสิทธิ์ในฐานะที่เป็นภรรยาที่จดทะเบียนและขอให้ผู้ที่มีอำนาจช่วยติดตามนายสุรชัยออกมาพูดความจริง ส่วนจะมีการดำเนินคดีกลับ กับทางลูกๆของนายสุรชัย หรือไม่นั้น ทนายความเองได้มีการเสนอหญิงไก่ไปแล้ว แต่หญิงไก่เป็นคนให้โอกาสคน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของนายสุรชัยเป็นหลัก แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็จะยอมใช้ข้อกฎหมายตามที่ทนายได้แนะนำไป แต่ก็จะขอเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย
ด้าน น.ส.ศรัญญา หรือ หญิงไก่ กล่าวว่า วันนี้ไม่อยากพูดอะไรเยอะ การที่ต้องใส่ชุดดำมาในวันนี้ก็เพราะว่าต้องการไว้ทุกข์ให้กับสื่อบางสื่อที่พยายามขุดเรื่องเก่าของตนขึ้นมาทั้งๆที่คดีจบลงไปแล้ว และเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นนั้นก็ไม่เป็นความจริง เสียใจตนทำความดีมาโดยตลอด ทำไมต้องมาทำร้ายตนด้วย ทำเพื่ออะไร ซึ่งหากปัญหาใหม่ที่กำลังเผชิญอยู่นั้นจบสิ้นลง ตนตั้งใจจะไปโกนหัวบวชตลอดชีวิต ส่วนกรณีที่ตอนแรกนายศุภโชค เคยบอกว่า นายสุรชัย ผิดปกติ แล้วพอตอนหลังกลับมาบอกว่าสบายดี สรุปแล้วคืออะไร ซึ่งทุกวันนี้ตนก็ไม่ทราบว่า นายสุรชัยอยู่ที่ใด แต่อยากให้ออกมา ความจริงทุกอย่างจะได้ปรากฎ
น.ส.ศรัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และได้ให้เอกสารหลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ซึ่งเอกสารหลักฐานต่างๆเหล่านี้นายสุรชัยก็เป็นคนเขียนขึ้นมาเอง เพราะรู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนทรัพย์สินที่นายสุรชัยให้ตนนั้นก็เป็นการให้เพราะความรัก อย่างไรก็ตามการที่เดินทางมากองปราบในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้ตำรวจช่วยตามหาตัวนายสุรชัย สามีของตน เพื่อที่จะได้มีการสอบปากคำถึงรายละเอียดต่างๆที่เกิดขึ้น