KEY :
- มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 174 ราย ในเหตุการณ์ความวุ่นวายในการแข่งขันฟุตบอลของอินโดนีเซีย
- หลังแฟนบอลทั้งสองทีมก่อเหตุชุลมุน ก่อนที่ตร.จะเข้าสลายเหตุด้วย “แก๊สน้ำตา” ส่งผลให้ความวุ่นวายบานปลาย จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
- ปธน.อินโดฯ สั่งระงับการแข่งขันทั่วประเทศ จนกว่าจะได้ข้อสรุปมาตรการป้องกันความปลอดภัย
…
เกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ภายในสนามฟุตบอล “กันจูรูฮัน” ในจังหวัด “ชวาตะวันออก” ในเกมการแข่งขันที่สโมสร “เปอร์เซบายา สุบารายา” เอาชนะสโมสร “อารีมา มาลัง” ไปได้ 3 ประตูต่อ 2 ก่อนที่แฟนทั้ง 2 ทีมจะมีปากเสียงกัน และวิ่งลงมาตะลุมบอนกันกลางสนามในเวลาต่อมา
เหตุการณ์เริ่มบานปลายมากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ปราบจราจลต้องเข้ามาระงับเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธียิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มแฟนบอล แต่ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เมื่อแฟนบอลคนอื่น ๆ ตกใจพากันวิ่งกรูกันเพื่อหนีออกจากสนามฟุตบอล
แต่ด้วยจำนวนผู้เข้าชมสูงถึง 42,000 คน เกินความจุที่รับได้เพียง 38,000 คนเท่านั้น ประกอบกับประตูทางออกที่คับแคบ ทำให้เมื่อแฟนบอลแตกตื่น เกิดการเบียดเสียดและเหยียบกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 174 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดที่มีรายงานในขณะนี้คือ 5 ขวบ โดยยังคงมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมากทั้งบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงอาการสาหัสและต้องรักษาตัวในห้องไอซียู
ปธน.อินโดฯ สั่งระงับการแข่งขัน
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด สั่งให้มีการสอบสวนโศกนาฏกรรมครั้งนี้ พร้อมทั้งระงับการแข่งขันทั่วประเทศ เพื่อหาสาเหตุและข้อสรุปในด้านของมาตรการความปลอดภัย ซึ่งฟุตบอลในประเทศอินโดนีเซียจะสามารถกลับมาจัดการแข่งขันได้ก็ต่อเมื่อได้ข้อสรุปถึงมาตรการความปลอดภัยของผู้ชมในสนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหตุการณ์นี้กลายเป็นหนึ่งในโศกนาฎกรรมในวงการกีฬาที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เบื้องต้นสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “FIFA” เตรียมลงมาตรวจสอบแล้ว เนื่องจากตามกฎสากลว่าด้วบความปลอดภัยในสนามกีฬา ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่พกอาวุธปืน หรือใช้ “แก๊สน้ำตา” ในการควบคุมความวุ่นวาย เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
