คัดลอก URL แล้ว
กอนช. เผย สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 ก.ย. 65

กอนช. เผย สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 ก.ย. 65

KEY :

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 11 ก.ย. โดยระบุว่า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ซึ่งปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ กรุงเทพมหานคร (114 มม.) จ.นครศรีธรรมราช (105) และจ.เลย (99 มม.)

เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขัง ดังนี้

สำหรับระดับน้ำแม่น้ำสายหลัก ที่มีระดับน้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ทางด้านของปริมาณน้ำในแหล่งน้ำทุกขนาดมีจำนวน 53,058 ล้าน ลบ.ม. (65%) โดยแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 46,361 ล้าน ลบ.ม. (65%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง

บริเวณภาคเหนือ มีแหล่งน้ำที่ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ แม่งัด แควน้อย ทับเสลา อุบลรัตน์ ขุนด่านปราการชล บางพระ หนองปลาไหล และบึงบอระเพ็ด

ตามที่ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 65 เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำมูล ในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 65 โดยศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณลุ่มน้ำมูลตอนบน พบว่ามีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนราษีไศลเพิ่มมากขึ้นและระดับน้ำบริเวณหน้าเขื่อนได้เพิ่มสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำมูลในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ และร้อยเอ็ด ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) การคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9–12 ก.ย. 65

ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ ได้ประสานให้กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดเพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนราษีไศล อยู่ในเกณฑ์ 1,100–1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที และมวลน้ำจะไหลไปรวมกับแม่น้ำชีและลำน้ำสาขา ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี อยู่ในเกณฑ์ 2,500–2,600 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 13 – 18 ก.ย. 65 ระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณ อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี จะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.30–0.50 ม. โดยไม่ส่งผลกระทบกับพนังกั้นน้ำที่ได้เตรียมป้องกันไว้แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ จึงเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

  1. ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ
  2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม โดยปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ เพื่อรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน ลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัย รวมทั้งจัดจราจรน้ำในแม่น้ำชี และแม่น้ำมูล เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำ ที่จะไหลหลากมายังบริเวณแม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี
  3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
  4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง